"หยุดชดเชยสงกรานต์" ใช้รถส่วนตัวมากขึ้น ใช้ขนส่งสาธารณะต่ำกว่าคาด

05 ก.ย. 2563 | 08:26 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2563 | 15:35 น.

"หยุดชดเชยสงกรานต์" 4 - 7 กันยายน 2563 ณ วันที่ 4 ก.ย. มีปริมาณการจราจรเข้า - ออก กรุงเทพฯ 3.09 ล้านคัน ส่วนใหญ่เป็นรถ รถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 2.87 ล้านคัน ผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะกว่า 2.51 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 10.51%

"หยุดชดเชยสงกรานต์" กระทรวงคมนาคม รายงานสถานการณ์ผลการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดยาว ระหว่างวันที่ 4 - 7 กันยายน 2563 ณ วันที่ 4 ก.ย.63 สามารถจัดบริการขนส่งสาธารณะได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง โดยมีผู้ใช้บริการขนส่งสาธารณะกว่า 2.51 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 10.51% มีปริมาณการจราจรเข้า - ออก กรุงเทพฯ 3.09 ล้านคัน ในขณะที่มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายของกระทรวงคมนาคม จำนวน 49 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 58 คน สาเหตุหลักของอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด

นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ตามที่กระทรวงคมนาคมได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเพื่ออำนวยความสะดวก รวดเร็ว และดูแลความปลอดภัยการเดินทางของประชาชน รวมถึงการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในช่วงวันหยุดต่อเนื่องระหว่างวันที่ 4 - 7 กันยายน 2563 ณ วันที่ 4 กันยายน 2563 พบว่า มีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 2,515,225 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการ 10.51% มีปริมาณการจราจรเดินทางเข้า - ออกกรุงเทพฯ จำนวน 3,098,483 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 2,878,605 คัน สูงกว่าประมาณการ 34.95% ส่วนสถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุบนโครงข่ายทางถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม ณ วันที่ 4 กันยายน 2563 พบว่า มีจำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 49 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 8 คน บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่เป็นทางตรง 76.60% สาเหตุสำคัญเกิดจากการขับรถเร็วเกินกำหนด 70.83% มีอุบัติเหตุที่มีรถจักรยานยนต์เกี่ยวข้อง จำนวน 16 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 6 คน นอกจากนี้มีอุบัติเหตุบนระบบขนส่งสาธารณะโดยรถโดยสารสาธารณะ จำนวน 1 ครั้ง ไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ ไม่มีการให้บริการขนส่งสาธารณะทางน้ำ ทางราง และทางอากาศ เกิดอุบัติเหตุ

สำหรับการเตรียมความพร้อมของระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในวันที่ 3 กันยายน 2563 สามารถรองรับการเดินทางของประชาชนได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง อย่างไรก็ดี พบว่า มีจำนวนผู้ใช้บริการเดินทางด้วยรถ บขส. ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ คาดว่าประชาชนส่วนหนึ่งหยุดอยู่บ้านเพื่อพักผ่อนและบางส่วนเปลี่ยนการเดินทางโดยใช้รถยนต์ส่วนตัว นอกจากนี้ในการตรวจความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจความพร้อม 121 แห่ง จำนวน 10,970 คัน พบข้อบกพร่อง 13 คัน ได้สั่งให้แก้ไข 13 คัน ส่วนความพร้อมของท่าเรือ/แพ รวมถึงการปฏิบัติงานพนักงานขับรถ เจ้าหน้าที่รถไฟ รถไฟฟ้า และผู้ประจำเรือไม่พบว่ามีการดื่มแอลกอฮอล์หรือใช้สารเสพติดแต่อย่างใด

นายชัยวัฒน์ ได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์การเดินทางและดำเนินการเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้ได้รับความสะดวก ปลอดภัย สร้างความมั่นใจในคุณภาพและการให้บริการของระบบขนส่งสาธารณะ เช่น จัดเตรียมรถโดยสาร ขบวนรถ เรือโดยสาร เครื่องบิน ให้เพียงพอ รวมถึงความพร้อมของสถานี ท่าเรือ ท่าอากาศยาน เข้มงวดมาตรการด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การบริการจัดการด้านการจราจรทางถนนในเส้นทางที่อยู่ในความรับผิดขอบให้มีความคล่องตัวตลอดเวลา และกวดขันให้พนักงานและผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 อย่างเคร่งครัดตลอดการเดินทางด้วย