มอนเดลีซ ประกาศเป้าดำเนินธุรกิจยั่งยืน รับผิดชอบสังคม

09 ส.ค. 2563 | 16:22 น.

การดำเนินธุรกิจขององค์กรด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของบริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ชุมชนต่างๆ ทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่ มอนเดลีซจึงมุ่งเน้นการดำเนินงานตามเป้าหมายด้านนโยบายเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนแก่ผู้บริโภคและชุมชนต่างๆ

ข้อมูลจากรายงานนโยบายด้านความรับผิดชอบสังคมประจำปี พ.ศ.2562 (Snacking Made Right 2019 Report) ระบุว่ามอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ได้เพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมปริมาณบริโภคต่อหน่วยเป็น 16% ของรายได้ทั้งหมด และปรับการแสดงข้อมูลโภชนาการไว้ที่ด้านหน้าของบรรจุภัณฑ์ตามมาตรฐานระดับโลก 

นอกจากนี้ ยังได้รายงานความคืบหน้าของการดำเนินงาน เพื่อสร้างซัพพลายเชนด้านวัตถุดิบที่ยั่งยืนและแข็งแกร่งและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ได้แก่ 1.ซัพพลายเชนด้านวัตถุดิบที่ยั่งยืน 63%ของปริมาณโกโก้ซึ่งเป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์ช็อคโกแลตมาจากโครงการโกโก้ ไลฟ์ (Cocoa Life) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการจัดหาวัตถุดิบอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ 65%ของข้าวสาลีซึ่งเป็นวัตถุดิบของผลิตภัณฑ์บิสกิตในยุโรปได้จัดซื้อมาด้วยวิธีการที่ยั่งยืนผ่านโครงการฮาร์โมนี่ วีท (Harmony Wheat) ของบริษัทฯ และสามารถรักษามาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน (Roundtable on Sustainable Palm Oil Goal หรือ RSPO) ไว้ได้ 100%

2. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากขั้นตอนการผลิตถึง 15% สามารถลดการใช้น้ำในพื้นที่ที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำถึง 27% และสามารถลดปริมาณขยะจากขั้นตอนการผลิตได้ถึง 21% และ 3. นวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ 93% ของบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด (ทั้งที่ทำและไม่ได้ทำจากพลาสติก) ถูกออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้

นายเดิร์ก แวน เดอ พุท ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของมอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า สำหรับมอนเดลีซ วิธีดำเนินงานตามเป้าหมายในการสร้างความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนคือ ให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจในการเป็นผู้นำด้านการบริโภคของว่างอย่างเหมาะสม ตามแนวคิด ‘Right Snack, for the Right Moment, Made the Right Way’ เราภูมิใจกับความคืบหน้าของการดำเนินงานอย่างมีนัยสำคัญที่เราสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2562 และเชื่อมั่นว่าเป้าหมาย ‘Snacking Made Right’ ภายในปี พ.ศ.2568 เป็นเป้าหมายที่สำคัญและถูกต้อง

มอนเดลีซ ประกาศเป้าดำเนินธุรกิจยั่งยืน รับผิดชอบสังคม

สำหรับประเทศไทย มอนเดลีซได้ดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมด้านความยั่งยืนเช่นกัน โดยโรงงานผลิตลูกอมและหมากฝรั่งในประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ประสบผลสำเร็จสู่การเป็นโรงงานสีเขียวด้วยการลดใช้พลังงานผ่านโครงการต่างๆ ส่งผลให้โรงงานแห่งนี้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรมในปี พ.ศ. 2558 และได้รับการรับรองว่าเป็นโรงงานที่สามารถกำจัดขยะให้เหลือศูนย์โดยใช้ประโยชน์จากของเสียได้ทั้งหมด (Zero Waste to Landfill Certificate)  นอกจากนี้ โรงงานลาดกระบังยังสามารถลดการใช้ทรัพยากรและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก อาทิ ลดการใช้พลังงานลง 36% ในช่วงปี 2562 ช่วยลดมลพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 15,321 ตันต่อปี ซึ่งมีค่าเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 1.92 ล้านต้น

การเปลี่ยนแหล่งพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า และใช้พลังงานไอน้ำ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 40% สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 37% สามารถลดปริมาณขยะได้ถึง 62% โดยมีการลดวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ไปแล้วกว่า 221 ตันต่อปี
  
นอกจากนี้ โรงงานอีกแห่งของมอนเดลีซที่ตั้งอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นแหล่งการผลิตเครื่องดื่มชนิดผง ได้เปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) 100 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 2 พันตันต่อปี ซึ่งปัจจุบันลดการปล่อยมลพิษไปแล้วถึง 3,000 ตัน คิดเป็น 97% หรือเท่ากับการปลูกต้นไม้ 2.8 แสนต้น 

มอนเดลีซ ประกาศเป้าดำเนินธุรกิจยั่งยืน รับผิดชอบสังคม

อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ในปี พ.ศ.2562 โรงงานขอนแก่นยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมสีเขียวจากกระทรวงอุตสาหกรรมจากการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อม โดยจัดการของเสียจากกระบวนการผลิตเพื่อนำไปใช้ใหม่ 100% เปอร์เซ็นต์  และยังสามารถลดปริมาณขยะได้ถึง 57% โดยมีการลดวัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ไปแล้วกว่า 4 แสนกิโลกรัม สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 38% รวมถึงบริหารจัดการน้ำเสียให้หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ 100% ภายในบริเวณโรงงาน 

มอนเดลีซ ประเทศไทย ยังได้ร่วมส่งเสริมการบริโภคขนมและของว่างอย่างเหมาะสม ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ อาทิ ออกผลิตภัณฑ์แบบไม่มีน้ำตาล เช่น ลูกอมฮอลล์ เอ็กซ์เอส (Halls XS) เม็ดอมคลอเร็ท มินต์ แท็บ (Clorets Mint Tab) เพิ่มสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น แคลเซียม วิตามินดี และวิตามินอี ในแคร็กเกอร์ริทส์ (Ritz) และปรับเปลี่ยนส่วนผสม โดยยกเลิกการใช้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ซึ่งก่อให้เกิดไขมันทรานส์ ออกจากผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศไทย ทั้งหมดของบริษัท 

นอกจากการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์แล้ว บริษัทฯ ยังจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเยาวชนอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมโภชนาการที่ดีผ่าน 3 แนวคิดหลัก ได้แก่ การเรียนรู้หลักโภชนาการที่ถูกต้อง การรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย และการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง ได้ดำเนินโครงการมาต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ในการสนับสนุนโรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 14 แห่ง รวม 26 ทุน และได้มีส่วนช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนกว่า 3,525 คน ด้วยงบประมาณทั้งหมดกว่า 10 ล้านบาท 

มอนเดลีซ ประเทศไทย ยังได้ดำเนินงานเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ผ่านการบริจาคเงินสมทบทุน พร้อมมอบผลิตภัณฑ์ของบริษัท และชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment หรือ PPE) รวมมูลค่ากว่า 4.3 ล้านบาท โดยร่วมมือกับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และมูลนิธิไอแคร์ ประเทศไทย สนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์และกลุ่มที่ได้รับผลกระทบต่างๆ ทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาล 14 แห่ง สถานสงเคราะห์ 14 แห่ง โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล 2 แห่ง รวมถึงชุมชนที่มีผู้ยากไร้และผู้ว่างงานเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 อีก 2 แห่ง 

มอนเดลีซ ประเทศไทย ยังมุ่งเน้นให้พนักงานภายในองค์กรคำนึงถึงสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองเป็นอันดับแรก โดยให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในทุกขั้นตอนการผลิตด้วยมาตรฐานระดับโลก และปฏิบัติตามข้อกำหนดและคำแนะนำด้านสาธารณสุขของหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด อีกทั้งยังทำงานร่วมกับคู่ค้าอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนการผลิตไปจนถึงการจัดจำหน่ายยังสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

มอนเดลีซ ประกาศเป้าดำเนินธุรกิจยั่งยืน รับผิดชอบสังคม

นายพสิษฐ์ อัครนันท์กรณิศ  ผู้อำนวยการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในประเทศไทย ได้สานต่อนโยบายเพื่อสังคมระดับโลกผ่านโครงการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับเคลื่อนสู่โรงงานสีเขียวและการใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการผลิต การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจต่อสุขภาพมากขึ้น และการดำเนินโครงการโรงเรียนสุขหรรษา (Joy Schools) ที่มุ่งเสริมสร้างและให้ความรู้ด้านโภชนาการที่ดีแก่เยาวชน เมื่อเร็วๆ นี้ เรายังได้ให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในวงกว้าง และให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานภายในองค์กร ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าการดำเนินงานเหล่านี้จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนแก่พนักงาน ผู้บริโภค และชุมชนต่างๆ ได้อย่างแท้จริง

มอนเดลีซ อินเตอร์เนชันแนล ยังได้กำหนดเป้าหมายระดับโลก สำหรับโครงการเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนที่จะต้องบรรลุภายในกรอบเวลาที่กำหนด อาทิ ขยายการดำเนินงานของระบบการตรวจสอบการใช้แรงงานเด็กและการแก้ไขปัญหาให้ครอบคลุม 100% ของชุมชนที่อยู่ภายใต้โครงการโกโก้ ไลฟ์ ในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ภายในปี พ.ศ. 2568 พร้อมตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 10% ภายในปี พ.ศ.2568 โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่า

นอกจากนี้  100% ของบรรจุภัณฑ์จะต้องถูกออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และระบุข้อมูลเกี่ยวกับการรีไซเคิลบนบรรจุภัณฑ์ ภายในปี พ.ศ. 2568 และมอนเดลีซยังสนับสนุนความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและองค์กรพันธมิตรต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อร่วมกันจัดการปัญหาขยะพลาสติก รวมถึงเพิ่มสัดส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุมปริมาณบริโภคต่อหน่วยเป็น 20% ของรายได้ทั้งหมด ภายในปี พ.ศ.2568