“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

22 ก.ค. 2563 | 21:54 น.

กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดเวที “อาหารไทย อาหารโลก” เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด เพื่อนำเสนอนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมสินค้าเกษตรไทย และรับฟังความเห็นของผู้ผลิต ผู้ส่งออกและเกษตรกรในการสร้างความร่วมมือดังกล่าว

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏร์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “Roadmap อาหารไทย อาหารโลก” ว่า เป้าหมายที่จะนำอาหารไทยผงาดในตลาดโลกต้องดำเนินการภายใต้แนวคิด 1 สร้าง 3 เพิ่ม คือ การสร้างประเทศให้เป็นประเทศสินค้าเกษตรอาหารที่มีคุณภาพของโลก
ส่วน 3 เพิ่ม ประกอบด้วย 1.การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน 2.การเพิ่มจีดีพี และ 3.การเพิ่มรายได้ ทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการ ทั้งนี้อาหารไทยจะพัฒนาขึ้นไปเป็นอาหารโลกได้ เพราะวันนี้การส่งออกอาหารของไทยอยู่ลำดับที่ 11 ของโลก และมีโอกาสขึ้นไปสู่อันดับสูงขึ้นได้ แม้ต้องเผชิญเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามการค้าและโควิด แต่การส่งออกอาหารยังเดินหน้าต่อ

 

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซา แต่การส่งออกอาหารไทยเดือน พ.ค.ขยายตัว 15% ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าวเป็นสัญญาณชี้ว่าอาหารไทยจะผงาดขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้ถ้าไทยร่วมกันผลักดัน “อาหารไทย อาหารโลก” ภายใต้ยุทธศาสตร์ ”เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด”

นายจุรินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่จะทำให้ไทยเป็นเบอร์ 1 อาหารโลก คือ 1.เพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี 2.เดินหน้าการตลาดเชิงรุกด้วยทีมเซลล์แมนจังหวัดที่มีพาณิชย์จังหวัดและเอกชนร่วมมือกัน และมีทีมเซลล์แมนประเทศ โดยมีทูตพาณิชย์และภาคเอกชนร่วมกันเข้าสู่ตลาดยุคใหม่ทั้งตลาดออฟไลน์ ตลาดออนไลน์ 3.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ รวมถึงปรับปรุงกฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและการเร่งรัดการทำข้อตกลงทางการค้าทั้งพหุภาคี ทวิภาคี เพื่อให้เราแสวงหาความได้เปรียบในอนาคตให้
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บรรยายพิเศษหัวข้อ “เกษตรไทย มาตรฐานโลก” ว่า ความร่วมมือ 2 กระทรวงมีเพื่อใช้ตลาดนำการผลิต ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของภาคการเกษตร จากพื้นที่การเกษตร 130 ล้านไร่ คิดเป็น 1 ใน 4 ของประเทศ สร้างจีดีพีกว่า 20% ดังนั้น หากทำให้ความเป็นอยู่เกษตรกร 30 ล้านคน ก้าวผ่านความยากจนได้จะทำให้ไทยมีความแข็งแกร่งขึ้น และจีดีพีของประเทศจะสูงขึ้น

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

“การช่วยให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน ต้องปฏิรูปภาคการเกษตร เริ่มต้นจากนโยบายการใช้ตลาดนำการผลิต เปลี่ยนจากการทำเกษตรดั่งเดิมเป็นเกษตรสมัยใหม่”
ด้านภาคเอกชนที่การจัดงานครั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้นำเสนอความเห็นถึงผู้บริหารทั้งสองกระทรวงได้โดยตรง เพราะเป้าหมายการจัดงานครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนำเสนอยุทธศาสตร์ภาครัฐเท่านั้น แต่ได้ให้สัดส่วนเวลาแก่ความเห็นจากภาคเอกชนด้วย โดยนายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าได้ผลักดันโครงการ“1 ไร่ 1 ล้านบาท” เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเศรษฐกิจที่เป็นที่ต้องการของตลาด

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

ขณะที่นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า เห็นด้วยกับแนวทางการใช้ตลาดนำการผลิต แต่ต้องสร้างโมเดลให้ถูกต้องด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ สอดคล้องกับนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยเริ่มถดถอยลง เพราะมีต้นทุนการผลิตสูง ไม่สามารถต่อสู่กับคู่แข่งได้ ด้านนายบุญชัย ศรีชัยยงพานิช สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า การส่งออกมันสำปะหลังในรูปแบบต่างๆ สร้างรายได้ให้กับประเทศมากถึงปีละ 1 แสนล้านบาท แต่ยังต้องเผชิญปัญหาต่างๆ

“จุรินทร์-เฉลิมชัย” ร่วมผนึก ดันไทยขึ้นแท่นผู้นำอาหารโลก

ส่วนนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ควรดึงกลุ่มวัยรุ่นเข้าสู่ภาคการเกษตรด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มและรายได้จากเกษตรกรรมให้มากขึ้น