นมไทย-เดนมาร์ค ยกระดับฟุตบอลเยาวชนไทย

อ.ส.ค. ร่วมมือ สโมสรบีจี ปทุมยูไนเต็ด เปิดศึกลูกหนัง “ไทย-เดนมาร์ค ฟุตบอล ทัวร์นาเมนท์” รุ่นไม่เกิน 15 ปี  สนับสนุนเยาวชนไทยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมรณรงค์ให้คนไทยดื่มนมไทย สร้างแบรนด์ ไทย-เดนมาร์ค ในใจกลุ่ม New Gen

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน “Thai-Denmark Football Tournament U15” นี้ ถือเป็นโครงการดีๆ ที่จัดขึ้นเพื่อตอบโจทย์หนึ่งใน 4 ภารกิจที่สำคัญของ อ.ส.ค. คือ การเป็น Top of Mind  ภายใต้วิสัยทัศน์ “นมแห่งชาติ” ภายในปี 2564 ที่นอกกจากส่งเสริมสนับสนุนเยาวชนไทยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจด้านกีฬาแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งของแวทางการตลาด เพราะกีฬาฟุตบอล ถือเป็นกีฬาที่มีพลังในการเข้าถึงกลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ อ.ส.ค. จึงได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอล บีจี ปทุมยูไนเต็ด ที่มีประสบการณ์และความเป็นมืออาชีพในการจัดการแข่งขันฟุตบอล

ฟุตบอลเป็นกีฬายอดนิยมของเยาวชนไทย จึงเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะเป็น “สื่อกลาง” นำผลิตภัณฑ์ นมไทย-เดนมาร์ค เข้าถึงกลุ่มครอบครัวและเยาวชนคนรุ่นใหม่ทั่วประเทศ อีกทั้งอยากให้โครงการนี้เป็นทัวร์นาเม้นท์แรกของ อ.ส.ค. ที่จะยกระดับเยาวชนในโรงเรียนทุกๆ โรงเรียนได้มีโอกาสแข่งขันกัน ตลอดจนเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้เฟ้นหาศักยภาพตัวเองในความตั้งใจและอดทน มีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ที่จะแข่งขันกันอย่างเป็นทีม และหวังว่าโครงการนี้จะทำให้เยาวชนมุ่งมั่นที่จะเป็นนักกีฬาอาชีพที่ดีในอนาคต ไปพร้อมๆ กับการดื่มนมไทย-เดนมาร์ค เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค      ผลิตจากน้ำนมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง และเรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่มีส่วนสนับสนุนให้เยาวชนได้เดินตามฝัน และทำให้ครอบครัวของเยาวชนไทยภาคภูมิใจ

ด้านโค้ชง้วน นายสุรชัย จตุรภัทรพงษ์  ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลบีจี ปทุม ยูไนเต็ด กล่าวว่า บีจีพียู พร้อมที่จะเป็นสนามจัดการแข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม ที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชน YHA (Yamaoka Hanasaka Academy) รังสิต คลอง 4 และการเปิดสนาม ลีโอ สเตเดี้ยม รองรับในรอบรองฯ และชิงชนะเลิศ โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่มจนถึงชิงชนะเลิศ จะได้ประสบการณ์ที่ดีในการทำงานเป็นทีม ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่า และสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ อย่างมาก เพื่อที่จะนำกลับมาพัฒนาตัวเองได้ต่อไปในอนาคต โครงการนี้ ถือเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้สัมผัสกับบรรยากาศในสนามฟุตบอล ที่ได้มาตรฐานสากล เป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการแข่งขัน โดยที่เด็กๆ มีโอกาสได้รับการฝึกอบรมทักษะฟุตบอลกับทางทีมโค้ชมืออาชีพ

ขณะเดียวกัน ทางสโมสรยังได้อบรมโค้ชของทั้ง 10 โรงเรียนที่ผ่านเข้ามา เพื่อให้ได้รับประสบการณ์กลับไปด้วย โดยสโมสรมีแผนที่จะพัฒนาโค้ชโรงเรียนต่างๆ ควบคู่ไปกับโค้ชของสโมสรที่ได้รับการพัฒนาในระดับต่างประเทศมาแล้ว

หัวใจสำคัญของโครงการนี้ คือการที่สโมสรได้สร้างสรรค์กิจกรรมด้านกีฬาให้กับชุมชน และเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนร่วมกับทาง อ.ส.ค. ในแต่ละภูมิภาคที่จะมีโครงการร่วมกับโรงเรียน และชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในสังคมไทย และทางสโมสรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดีๆ อย่างนี้ จะมีขึ้นทุกๆ ปี เราพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรที่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะพัฒนาเยาวชนไทยในด้านกีฬาทุกประเภท ช่วยพัฒนาน้องๆ ในโรงเรียน ให้มุ่งมั่น และพัฒนาตัวเอง ไปพร้อมๆกับการได้รู้จักและสัมผัสกับสโมสรบีจีพียู ต่อไป

สำหรับสถานที่เปิดรับสมัคร และสนามที่ใช้คัดเลือกตัวแทนแต่ละภาคมีดังนี้

             - โซนภาคเหนือตอนบน ที่ อ.ส.ค. จังหวัดเชียงใหม่   โทร. 061-9366564

                คัดเลือกวันที่ 1-4 กรกฎาคม 2562    สนามเทศบาลนครเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

            - โซนภาคเหนือตอนล่าง ที่ อ.ส.ค. จังหวัดสุโขทัย      โทร. 089-9018043, 081-0399434

                คัดเลือกวันที่ 6-28 กรกฎาคม 2562   สนามโรงเรียนสวรรคโลกประชาสรร จ.สุโขทัย

            - โซนภาคใต้ ที่ อ.ส.ค. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์           โทร. 086-3626631

                คัดเลือกวันที่ 8-12 กรกฎาคม 2562   สนามกีฬาค่ายธนะรัตน์ จ.ประจวบคีรีขันธ์

            - โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ อ.ส.ค. จังหวัดขอนแก่น              

    โทร. 089-9018732, 081-9460125

                คัดเลือกวันที่ 18-26 กรกฎาคม 2562  สนามโรงเรียนขามแก่นนคร จ.ขอนแก่น

- โซนภาคกลาง ที่ อ.ส.ค. จังหวัดสระบุรี         โทร. 098-2631214

                คัดเลือกวันที่ 3-12 สิงหาคม 2562   สนามฟุตบอล อ.ส.ค. มวกเหล็ก จ. สระบุรี 

การแข่งขันรอบคัดเลือก จะคัดตัวแทนภาคละ 2 ทีม (แข่งขันในช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม) เพื่อเข้าไปเล่นรอบ 10 ทีมสุดท้าย หรือรอบแบ่งกลุ่ม ที่จะแข่งขันแบบพบกันหมดในสาย (แข่งขันระหว่าง 24-25 สิงหาคม 2562) ที่ศูนย์ฝึกฟุตบอลเยาวชน YHA (Yamaoka Hanasaka Academy) รังสิต คลอง 4 โดยทีมที่ผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย จะได้รับชุดแข่งขันจาก นมไทย-เดนมาร์ค จากนั้นจะคัด 4 ทีมสุดท้าย (แข่งขัน 7 กันยายน 2562) เข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ และชิงชนะเลิศที่สนาม ลีโอ สเตเดี้ยม รังสิต คลอง 3 ต่อไป