'ศิริราช' สร้างดีเอ็นเอ "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ปีที่ 2"

07 พ.ย. 2561 | 15:58 น.
อัปเดตล่าสุด :08 พ.ย. 2561 | 18:17 น.
"ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ปีที่ 2" สานต่อการให้ สร้างวินัยการออม สมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา



E86BA1AD-2FC1-4AB2-BEE3-24A32AE9EA97

โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ (SiPH) จัดกิจกรรม "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ปีที่ 2" ชวนคนไทยสานต่อการให้ สร้างวินัยการออม ให้เกิดพฤติกรรมอย่างต่อเนื่อง ตามรอยพระราชจริยวัตรในการเป็น "กษัตริย์นักออม" และศาสตร์แห่งพระราชาในการดำเนินชีวิตให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมของ "ในหลวง รัชกาลที่ 9" ด้วยการเป็น "นักออมเพื่อให้" นำเงินออมสมทบทุนเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา อาคารศูนย์การแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล พระราชปณิธานสุดท้ายของพระองค์เพื่อผู้ป่วยด้อยโอกาส

ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงกิจกรรม "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ในปีที่ 2" นี้ว่า เป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธานและพระราชกรณียกิจของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการพัฒนาและดูแลความเป็นอยู่ของพสกนิกร เพื่อร่วมน้อมรำลึกถึงพระราชจริยวัตรในการเป็น "กษัตริย์นักออม" และ "กษัตริย์ผู้ให้" ของรัชกาลที่ 9 รวมไปถึงเพื่อต่อยอดการปลูกฝังวินัยการออมและการเป็นผู้ให้แก่สังคม ด้วยการนำเงินออมนั้นร่วมสมทบทุนในการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์แก่อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา


D4167E2D-3708-457B-A80E-8CBFA5EAE43D

อาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสและลดปัญหาความแออัดของผู้ป่วยที่โรงพยาบาลศิริราชเผชิญมาโดยตลอด ซึ่งนี่เป็นพระราชปณิธานของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการสร้างความเท่าเทียมและคุณภาพชีวิตที่ดีแก่ผู้ป่วยด้อยโอกาส ทางโรงพยาบาลศิริราชอยากให้คนไทยทุกคนได้ร่วมสานต่อพระราชปณิธานสุดท้ายของพระองค์ ทำประโยชน์เพื่อสังคม ด้วยการสร้างอาคารหลังนี้ให้เกิดขึ้น จึงได้จัดโครงการระดมทุนมากมายและหลากหลายรูปแบบ เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนทุกอาชีพ ทุกพื้นที่ และทุกสถานะ ตั้งใจให้อาคารหลังนี้เป็นตัวแทนของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของคนไทย เป็นจุดศูนย์รวมให้ทุกคนได้เข้ามาทำดี ทำประโยชน์ ช่วยเหลือกันและกัน ตามรอยพระองค์ท่าน"

กิจกรรม "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ" เป็นหนึ่งในกิจกรรมระดมทุนเพื่ออาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา เริ่มต้นครั้งแรกเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีปฏิบัติในด้านการออมของ "ในหลวง รัชกาลที่ 9" จนเกิดเป็นโครงการรณรงค์ให้คนในสังคมเดินตามรอยพ่อ ส่งเสริมและปลูกฝังนิสัยการออมและการแบ่งปันแก่สังคมไทย ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนถึงกว่า 139,000 คน จนมียอดออมสมทบทุนถึง 111 ล้านบาท

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ กล่าวถึงเป้าหมายของกิจกรรม "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ ในปีที่ 2" นี้ "กิจกรรม "ออมเพื่อให้ ตามรอยพ่อ" เป็นกิจกรรมระดมทุนที่ต่างจากโครงการอื่น เพราะเป้าหมายหลัก คือ ต้องการปลูกฝังการออมให้แก่ประชาชน ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่จะปลูกฝังกันได้ภายในระยะเวลาอันสั้น ในปีนี้เราจึงได้จัดกิจกรรมขึ้นอีกครั้ง เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีพฤติกรรมการออมอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย ดังที่ "ในหลวง รัชกาลที่ 9" ทรงปฏิบัติตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ซึ่งในปีนี้เรามีการปรับรูปแบบการเข้าร่วมให้ตอบกับเป้าหมายของโครงการมากขึ้น โดยเราได้องค์กรจิตอาสา คือ ธนาคารกรุงเทพ เข้ามาช่วยเหลือในด้านการจัดการตลอดกระบวนการ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนทุกคนสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมนี้ได้"

นางสาวพจณี คงคาลัย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "ในมิติของการเป็นธนาคารที่อยู่คู่คนไทยมาช้านาน ปลุกจิตสำนึกคนไทยให้มีวินัยทางการเงิน ใช้เงินอย่างรู้คุณค่า ถือเป็นพันธกิจหนึ่งของธนาคาร ซึ่งการอาสาเข้ามาสนับสนุนกิจกรรมนี้ นอกจากจะมุ่งหวังให้เกิดพฤติกรรมการออมที่ดี เพื่อเป็นรากฐานแห่งความพอเพียงและมั่นคงทางการเงินของสังคมไทยแล้ว อีกสิ่งหนึ่ง คือ การที่เราได้นำความถนัดของธุรกิจธนาคารมาร่วมสร้างสรรค์สิ่งที่ดีแก่สังคม เป็นช่องทางให้ประชาชนได้เข้าถึงกิจกรรมดี ๆ นี้อย่างทั่วถึงทั้งประเทศ โดยเรามีกว่า 1,163 สาขา ที่เปิดรับสมัคร "นักออม เพื่อให้" ใน 77 จังหวัด มีระบบออนไลน์แบงก์กิ้งที่แข็งแกร่ง เพื่ออำนวยความสะดวกในส่วนของการโอนเงินออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์" โดยมีทั้งการสแกน QR Code ผ่านโมบายแบงก์กิ้งของทุกธนาคาร และการสแกน Barcode ผ่านช่องทางโมบายแบงก์กิ้ง (Mobile Banking), เอทีเอ็ม (ATM) หรือ อินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง (Internet Banking) ของทุกธนาคาร หรือ ผ่านเคาน์เตอร์สาขาของธนาคารกรุงเทพ


E7117093-37A5-471F-8CAF-4DAC8D4B6804

รูปแบบการออมในปีนี้จะเน้นให้ประชาชนได้ฝึกฝนการออมทุกวัน

ขั้นที่ 1 เริ่มจากการลงทะเบียนเป็น "นักออมเพื่อให้" ก่อน โดยสามารถสมัครด้วยตนเองที่ธนาคารกรุงเทพ 1,163 สาขาทั่วประเทศ ในวันที่ 16–25 พ.ย. 2561 หรือ สมัครผ่านช่องทางออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.savingforgiving.com ในวันที่ 23–25 พ.ย. 2561 โดยมีเงื่อนไขการสมัคร คือ 1 บัตรประชาชน ต่อ 1 สิทธิ์ เพื่อแลกรับกระปุกได้ไม่เกิน 3 กระปุก โดยไม่ซ้ำแบบ

ขั้นที่ 2 ออมเงินทุกวัน โดยมีระยะเวลาในการออม นับตั้งแต่วันนี้ – 15 ม.ค. 2562 กำหนดเป้าหมายเงินออม 450 บาท ต่อ 1 กระปุก

ขั้นที่ 3 โอนเงินออมจากความมีวินัยและความเพียร เพื่อร่วมสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ของอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา โดยสามารถโอนผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ โอนด้วยตัวเองที่สาขาธนาคารกรุงเทพ ได้ในช่วงวันที่ 16–22 ม.ค. 2562

ขั้นที่ 4 รับกระปุกออมเงินสัญลักษณ์จำลองอุปกรณ์ทรงงาน 3 แบบ ได้แก่ วิทยุสื่อสาร กล้องถ่ายรูป และรถจี๊ป ซึ่งเป็นพระราชพาหนะทรงงาน โดยหากแจ้งความประสงค์จะรับด้วยตนเองที่สาขา สามารถรับได้ในช่วงวันที่ 16–22 ม.ค. 2562 และหากแจ้งรับทางไปรษณีย์ จะเริ่มจัดส่งตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 2562 เป็นต้นไป

"โครงการนี้มีเป้าหมายที่มุ่งส่งเสริมแนวคิดเรื่องการออมและสร้างพฤติกรรมการออมที่ดี เพื่อเป็นรากฐานแห่งความพอเพียงและความมั่นคงทางการเงินสำหรับประชาชนทุกคน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและบทบาทหน้าที่ของธนาคารกรุงเทพ ในฐานะสถาบันการเงินที่มีความมุ่งมั่นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศไทยได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต ประกอบกับศักยภาพของธนาคารมีความพร้อมด้านเครือข่ายสาขาทั่วประเทศ สามารถเข้าถึงประชาชนในวงกว้าง รวมถึงระบบออนไลน์แบงก์กิ้งที่รองรับปริมาณธุรกรรมจำนวนมากได้ จึงได้พัฒนาโปรแกรมพิเศษเพื่อรองรับโครงการนี้โดยเฉพาะ จึงมั่นใจว่าจะสามารถเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมออมเงินและร่วมสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ของอาคารนวมินทรบพิตร 84 พรรษา" นางสาวพจณี กล่าว

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว