ซีอีโอใหม่โอ ช้อปปิ้ง รับไม้ต่อเดินหน้าสร้างยอดขายโต 30-40% ดันรายได้ทะลุ 3,000 ล้านบาทใน 3 ปี เล็งเข็นศิลปินแกรมมี่ต่อยอดขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
หลังดำเนินธุรกิจโฮมช๊อปปิ้งครบ 5 ปีในเมืองไทยล่าสุดได้เปลี่ยนผู้บริหารใหม่เป็นผู้บริหารไทย ตามเงื่อนไขสัญญาการบริหารงาน สลับกันระหว่างฝ่ายเกาหลีและไทย ซึ่งเป้าหมายสำคัญเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในอีก 3 ปีข้างหน้าจะต้องทำยอดขายให้ได้เท่าตัวจากปัจจุบัน ซึ่งเป็นการใช้ความแข็งแกร่งของเกาหลีและจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มาขับเคลื่อนองค์กร
นายสุวัฒน์ ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซีเจ โอช้อปปิ้ง จำกัด เปิดใจหลังเข้ารับตำแหน่งต่อจากนายซอง นัก เจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารชาวเกาหลีคนก่อนว่า ประธานบริษัทที่ประเทศเกาหลีได้ให้เป้าหมายในการดำเนินงาน 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การเพิ่มยอดขาย และ 2.การทำกำไรเพิ่ม โดยคาดว่า 3 ปีนับจากนี้จะต้องสร้างการเติบโต 30-40% มีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัวหรือประมาณ 3,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้ 1,700 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการเพิ่มยอดขายจะมุ่งเน้น 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การขยายจำนวนกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น 2.การหาสินค้าที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมายและช่องทาง ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทยังมุ่งเน้นการทำตลาดและจัดจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโทรทัศน์ 90% ที่เหลือเป็นช่องทางออนไลน์ 10% โดยจะเน้นการทำตลาดและขยายรูปแบบใหม่ๆ เช่น แอพพลิเคชั่น เป็นต้น เพื่อเพิ่มสัดส่วนให้ได้ 25% ขณะที่สินค้าจะนำมาจัดจำหน่ายให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย และในแต่ละช่องทาง รวมถึงการหาสินค้าที่มีอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้น
ส่วนวิธีการที่จะนำมาใช้เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดนั้น จะนำเอาข้อมูลจากฐานลูกค้าที่มีกว่า 1 ล้านราย มีอัตราการซื้อต่อเนื่อง 30-40% มาทำการวิเคราะห์และประเมินผลในเชิงลึก เพื่อให้รู้ถึงพฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารและซื้อสินค้า สำหรับผลิตเนื้อหารายการและนำเสนอสินค้าให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย แต่ละช่วงเวลาและแต่ละช่องทางที่กลุ่มลูกค้ารับข้อมูลข่าวสาร ซึ่งเครื่องมือและระบบต่างๆ บริษัทมีพร้อมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาใช้วิเคราะห์ในเชิงลึกมากนัก ขณะเดียวกันยังจะมองหาโอกาสและความแข็งแกร่งของทั้ง 2 กลุ่มผู้ร่วมทุน เพื่อนำมาใช้สำหรับการทำตลาดด้วย เช่น จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่มีศิลปินจำนวนมาก ที่สามารถนำมาใช้เป็นพรีเซนเตอร์ หรือผู้นำเสนอสินค้า หรืออาจจะมาช่วยผลิตรายการเพื่อสร้างสีสันให้มากขึ้นได้ เป็นต้น โดยแผนการตลาดและกลยุทธ์ทางการตลาด จะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,240 วันที่ 2 - 4 มีนาคม พ.ศ. 2560