นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ หรือ บลจ.ไทยพาณิชย์(SCBAM)เปิดเผยถึงแผนงานปี 2568 ว่า บริษัท ยังมุ่งเดินหน้าและผลักดันการเติบโตของธุรกิจให้เป็น “The Best Fund House” โดยตั้งเป้ารายได้และกำไรเติบโต 15% จากปี 2567 ที่มีรายได้ประมาณ 6 พันล้านบาท
ซึ่งจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) แตะ 2 ล้านล้านบาท จากปี 67 อยู่ที่ 1.94 ล้านล้านบาท โดยมาจากการเติบโตของธุรกิจกองทุนรวม เนื่องจากยังมีโอกาสขยายลูกค้าที่เป็นความร่วมมือกับพันธมิตร
ขณะเดียวกันแผนงาน 3 ปีหรือภายในปี 2570 จะเร่งขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มเป็น 1 ล้านคน จากปัจจุบันมีที่มีฐานลูกค้า 7 แสนคน ซึ่งจะหนุนให้รายได้พุ่งไปแตะ 10,000 ล้านบาท และ AUM เพิ่มเป็น 3 ล้านล้านบาทได้
“ช่วง 10ปีที่ผ่านมา บางช่วงลูกค้าเราลดลงบ้าง ทำให้ AUM บางช่วงทรงตัวหรือเพิ่มขึิ้นเล็กน้อย ดังนั้นเราจึงมองว่า ธุรกิจจะยั่งยืนได้ จะต้องหาลูกค้าเพิ่ม ไม่ใช่แค่การเติบโตของ AUM เท่านั้น แต่จะต้องมีลูกค้าเพิ่มขึ้น มีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ช่องทางการจำหน่ายมากมากขึ้น”
ทั้งนี้เป้าหมาย AUM จะไปถึง 2 ล้านล้านบาท ก็น่าจะได้ในปีนี้ เพราะเหลือแค่ 6 หมื่นล้านบาท ที่มี 1.94 ล้านล้านบาท แต่การจะเพิ่มจำนวนลูกค้าให้ได้ 1 ล้านคนนั้นอาจจะต้องใช้เวลา 2-3 ปี
สำหรับการผลักดันให้ AUM เติบโตต่อเนื่องสู่ 2 ล้านล้านบาทในปี 2568 ด้วย 3 แนวทางขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืนคือ
นางสาวพิณแก้ว ทรายแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาดกล่าวว่า เป้าหมายการเติบโต AUM ปีนี้สู่ 2 ล้านล้านบาท แรงขับเคลื่อนหลักยังมาจากกลุ่มธุรกิจกองทุนรวม ควบคู่กับการสร้างการเติบโตที่สมดุลไปกับธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
พร้อมกันนี้ SCBAM มี Roadmap สร้างการเติบโตผ่านความร่วมมืออย่างเข้มข้นกับพันธมิตร ที่จะเน้นการวางแผนทำงานร่วมกันอย่างยืดหยุ่นและรวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่แตกต่าง รวมถึงนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนที่สอดรับกับพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มผู้ลงทุนของพันธมิตร
นอกจากนั้น ด้วยความร่วมมือนี้ SCBAM จะสามารถสร้างฐานผู้ลงทุนที่แข็งแกร่งได้ครอบคลุม 1 ล้านรายตามเป้าหมาย ด้วยกลุ่มผู้ลงทุนรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจเรื่องการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้งานง่าย อย่างแอปพลิเคชัน SCBAM Fund Click ที่มีความพิเศษจากกองทุน e-class ฟรีค่าธรรมเนียม
นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน เปิดเผยว่า SCBAM ได้นำเทคโนโลยี Machine Learning มาใช้ในการช่วยคัดสรร วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเข้มข้น และการประมวลผลข้อมูลให้มีความแม่นยำ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจลงทุน
และสามารถบริหารจัดการกองทุนได้อย่างมีประสิทธิผลและน่าเชื่อถือ ให้พร้อมรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนในกองทุนที่หลากหลาย และมีกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับเป้าหมายของตนเองได้
สำหรับขยายฐานการเติบโตของกองทุนคุณภาพ SCBAM ยังได้ร่วมมือกับกลุ่ม SCBX ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนรูปแบบใหม่ ให้กับผู้ลงทุนกลุ่ม Wealth ผ่านความร่วมมือของธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) กับ BlackRock บลจ. อันดับหนึ่งของโลกอีกด้วย
นางปิ่นสุดา ภู่วิภาดาวรรธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ เปิดเผยว่า SCBAM มีกลยุทธ์เชิงรุกในการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี เพื่อรองรับนวัตกรรมด้านการลงทุน การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ การให้บริการที่สะดวกรวดเร็วแก่ผู้ลงทุนและตัวแทนขายหน่วยลงทุน
โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีอย่างยั่งยืนแก่ผู้ลงทุน รวมถึงให้ความสำคัญกับการมีระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับสากล โดยครอบคลุมถึงการปกป้องข้อมูลทางธุรกิจขององค์กรและการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้มีความปลอดภัย
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,085 วันที่ 6 - 9 เมษายน พ.ศ. 2568