โบรกมองดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 อาจไม่เอื้อต่อเศรษฐกิจ-ตลาดหุ้นไทย

11 มี.ค. 2568 | 15:21 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2568 | 15:21 น.

นักวิเคราะห์ชี้ ดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 แบ่งจ่ายหลายเฟส ตลาดหุ้นไทยผิดหวัง รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่เข้ามาหนุนบรรยากาศการลงทุน ด้าน ครม. อนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESG EXTRA หนุนตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายยืนแดนบวกบางๆ วางกรอบดัชนีระยะสั้น 1,150-1,180 จุด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) เปิดเผยว่า โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท (Digital Wallet) เฟส 3 สำหรับบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี รวมทั้งหมด 2.7 ล้านคน ที่กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในปัจจุบัน ยังไม่เห็นรายละเอียดที่ออกมาอย่างชัดเจนในปัจจุบัน

จากที่ติดตามข่าวล่าสุด ทางนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้เผยว่า กระทรวงการคลังขอปรับข้อมูลการใช้จ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ตจากเดิมที่ระบุว่าสามารถจ่ายค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการสาธารณูปโภค ทั้งค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้า ไม่สามารถจ่ายได้เพราะเป็นบริการ

ทำให้ยังมองภาพวัตถุประสงค์ไม่ออกว่าการแจกเงินรอบนี้ กลุ่มบุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี จะนำเงินก้อนนี้ไปใช้จ่ายในส่วนใดได้บ้าง ดังนั้น ส่วนตัวมองว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ครั้งนี้ เป็นผลลบต่อเศรษฐกิจและตลาดทุนไทย หลักๆ เป็นเพราะตลาดแอบผิดหวังกับการแบ่งเงินออกเป็นหลายเฟส ทำให้คนที่มีสิทธิก็ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ควร

"ยังมองภาพไม่ออกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่ให้กับกลุ่มเด็นอายุ 16-20 ปี นั้นจะนำไปใช้จ่ายในส่วนไหนได้บ้าง และจะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจไทยได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่าการแบ่งแยกเฟสการแจกเงินออกเป็นผลลบต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย คนไม่ตื่นเต้นกับมันอีกแล้ว อีกทั้งยังฉุดดัชนีเสียด้วยซ้ำ ภาคเอกชนโดยเฉพาะ บริษัทจดทะเบียน (บจ.) แทบไม่ได้รับอานิสงส์เลย จากนี้คงต้องจับตารอดูมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐๆ เข้ามาสร้างบรรยากาศการลงทุนให้ตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง"

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาทั้งเฟส 1 และเฟส 2 ตลาดได้ใส่ความคาดหวังต่อโครงการแจกเงินดิจิทัลไปค่อนข้างมากแล้ว ดังนั้นเมื่อมีส่วนขยายหรือเฟสอื่นเพิ่มเติมเข้ามา ตลาดก็ไม่ได้ตื่นเต้นอีกแล้ว กลับยิ่งฉุดให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเสียด้วยซ้ำ

ในทางกลับกันมองว่าประเด็นการผลักดันโครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) กลับจะเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทยมากกว่า เนื่องจากจะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวและดึงดูดเม็ดเงินใหม่ๆ ใส่กลับเข้ามาในประเทศได้ เพียงแต่ด้วยยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนทำให้ตลาดเลยยังไม่ได้คาดหวังมากนัก

ทั้งนี้ เปิดการซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ 11 มี.ค. 68 ดัชนีกลุดไปที่ราว 1,160 จุด ลดลงมาราว 14-15 จุด จากปิดตลาดก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจถดถอย การปรับขึ้นภาษีกับคู่ค้าของทรัมป์ รวมถึงยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาหนุนตลาดในระยะสั้นได้

แต่ด้วยล่าสุดทางคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติอนุมัติจัดตั้งกองทุน Thai ESG EXTRA ขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะให้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด  5 แสนบาท แบ่งออกเป็น

  • กลุ่มนักลงทุนที่ลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) 1.8 แสนล้านบาท หากย้ายมาอยู่ในกองทุน Thai ESG EXTRA  ปีภาษี 2568 จะได้รับสิทธิประโยชน์ได้ไม่เกิน 3 แสนบาท ส่วนอีก 2 แสนบาทที่เหลือ จะให้ลดหย่อนภาษีปีละ 5 หมื่นบาท ในปีที่ 2-5
  • กลุ่มนักลงทุนรายใหม่ หากเข้ามาลงทุนใน Thai ESG EXTRA  จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อยภาษี 3 แสนบาท โดยจะเปิดให้มีการลงทุน 2 เดือน คือ ช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.68 ทั้งนี้ จะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

ส่งผลให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดการซื้อขายในภาคบ่ายวันนี้ ณ เวลา 15.00 น. กลับมายืนแดนบวกได้ที่ระดับ 1,178.08 จุดได้ มองว่าด้วยสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ใส่เข้ามาเพิ่มใหม่อีก 3 แสนบาท เป็นอานิสงส์เชิงบวกแบบบางๆ ให้กับตลาดหุ้นไทยในวันนี้ได้ อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายคาดการณ์กรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นไว้ที่ระดับ 1,150-1,180 จุด