นายฉี ชิง-ฟู่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH Bank)เปิดเผยว่า แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้คาดว่า จะเติบโต 3% โดยมีปัจจัยมาจากการลงทุนภาครัฐ ตลอดจนการส่งออกที่จะขยายตัวต่อเนื่อง และการท่องเที่ยวที่กลับมามากขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
สำหรับเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารในปี 68 ตั้งเป้าขยายตัวได้ 8% เท่ากับค่าเฉลี่ยในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาที่สินเชื่อรวมเติบโต 8% เช่นกัน โดยสินเชื่อต่างประเทศยังเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ โดยเฉพาะการลงทุนจากไต้หวันทั้งมาลงทุนในไทย และ จากไทยไปลงทุนที่ไต้หวัน
ทั้งนี้ CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทแม่ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในธนาคารใหญ่สุดของไต้หวัน โดยมีสินทรัพย์ 2 แสนล้านดอลลาร์ หรือ คิดเป็น 7 ล้านล้านบาท และมีสินทรัพย์ใหญ่กว่าธนาคารพาณิชย์ในไทยอันดับ 1 มากกว่า 1.5 เท่า ซึ่งจีดีพีไต้หวัน มีมูลค่า 7.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจีดีพีไต้หวันในปีนี้จะเติบโตได้ 3-4% โดยกลุ่มเทคโนโลยีคิดเป็น 75% ของภาคการผลิตทั้งหมด
“ไต้หวันมีเสถียรภาพ และการลงทุนเติบโตต่อเนื่อง แม้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาจะมีปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันยังเติบโตเฉลี่ยประมาณ 20% ต่อปี โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม AI , EV , 5G และ หุ้นประมาณ 80% ปันผลเฉลี่ย 3%”
นายมนรัฐ ผดุงสิทธิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.)แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ หรือ LH Fund กล่าวว่า ไต้หวันมีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยความเชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และ ความสามารถในเทคโนโลยีและ นวัตกรรมขั้นสูง ทำให้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำระดับโลก และ เป็นฟันเฟืองสำคัญในห่วงโซ่อุปทาน AI
โดยอุตสาหกรรม AI โลกกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งคาดการณ์ว่า มูลค่าการผลิตจะขยายตัวเฉลี่ย 17.3% ต่อปี และ จะทะลุ 3.68 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2034 ด้วยบทบาทสำคัญในเทคโนโลยีแห่งอนาคต ซึ่งไต้หวันกำลังเดินหน้าสร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาดโลก และ ผลักดันเศรษฐกิจของไต้หวันให้เติบโตอย่างมั่นคง
LH Fund ได้เล็งเห็นความสำคัญในบทบาทของไต้หวันบนเวทีเศรษฐกิจโลก รวมทั้ง LH Fund เป็นบริษัทในกลุ่ม CTBC Bank ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่เป็นธนาคารพาณิชย์เอกชนที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน และ ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ A จาก S&P Global Ratings ทำให้ LH Fund โดดเด่นในเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจในไต้หวันเป็นอย่างดี
โดยหุ้นที่มีศักยภาพการเติบโต และ จ่ายเงินปันผลสูงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนระยะยาว LH Fund จึงเปิดตัว กองทุน แอล เอช ไต้หวัน โกรท แอนด์ ไฮ ดิวิเดนด์ (LH Taiwan Growth and High Dividend Fund : LHTWGHD) ซึ่งเป็นกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศแบบ Feeder Fund ลงทุนในกองทุนหลัก CTBC TIP Customized Taiwan Growth and High Dividend ETF สกุลเงินดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (New Taiwan Dollar : NTD)
LHTWGHD จะะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 13-20 ม.ค. 68 จะลงทุนในกองทุนหลัก โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV มีระดับความเสี่ยงของกองทุนอยู่ที่ระดับ 6 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่สามารถรับความเสี่ยง และ ความผันผวนของตลาดได้
ส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ของ LH Fund อยู่ที่ 500-1,000 ล้านบาท ภายในปีนี้ และในช่วงที่เหลือของปีนี้จะทยอยออกกองทุนอีก 3 กองทุน โดยคาดว่าจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารได้ 5-10 ล้านบาท
หน้า 13 หนังสือพิม ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 4,063 วันที่ 19 - 22 มกราคม พ.ศ. 2568