สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ธ.ก.ส.เตรียมพร้อมรับสังคมสูงวัย

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.อยู่ระหว่างการนำเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) เพื่อเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ภายใต้ชื่อ เกษตรวิวัฒน์ สําหรับผู้ที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการหรือ ผู้ต้องการที่จะมีอาชีพคู่ขนานในการทําภาคการเกษตรรองรับหลังเกษียณอายุ

สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ จะปล่อยกู้ให้กับผู้ที่มีรายได้ประจำ และมีที่ดินเป็นหลักประกัน ไม่เกิน 20 ไร่ ปล่อยกู้ไม่เกิน 90%ของราคาประเมินหรือไม่เกิน 8 ล้านบาทต่อราย โดยอัตราดอกเบี้ย 5ปีแรกใช้อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR-2% หลังจากนั้นจะเป็นอัตรา MRR ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 6.875% ชำระคืนไม่เกิน 20ปี 

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า สังคมไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุเรียบร้อยแล้ว ไม่กี่ปีเราจะมีผู้เสียอายุเกิน 60 ปีถึง 20% ต่อจำนวนประชากรทั้งประเทศ 

ดังนั้นภายใต้กฎกระทรวง ธ.ก.ส.ซึ่งมีภารกิจเรื่องสินเชื่อในภาคการเกษตรและยังทำสินเชื่อนอกภาคเกษตรได้อีกไม่เกิน 20% ซึ่งจากพอร์ตที่มีเพียง 10% จึงยังเหลือวงเงินอีก 10% หรือประมาณ 1.6 แสนล้านบาท ที่สามารถทำได้

“เราต้องยอมรับความจริงว่า ภาคการเกษตรของประเทศเรา เกษตรกรจะสูงอายุขึ้น เริ่มที่จะไม่ได้ทําการเกษตรแล้ว ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มหนึ่งที่ออกจากภาคการเกษตรไป จึงทําให้บุคคลากรที่จะอยู่ในภาคการเกษตรน้อยลง รวมถึงองค์ความรู้ใหม่หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับการเกษตรก็ลดน้อยลงด้วย” 

ขณะเดียวกัน สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ยังเป็นช่องทางเพิ่มเติมลูกค้าธ.ก.ส.ในกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จากกลุ่มลูกค้าเกษตรเดิมที่มีความเปราะบาง ซึ่งหากทำให้พอร์ตธ.ก.ส.แข็งแรงขึ้น ก็จะสามารถไปช่วยลดดอกเบี้ยให้กับเกษตรลงได้ด้วย 

นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับผู้ที่ใกล้จะเกษียณอายุราชการ ที่ต้องการที่จะมีอาชีพคู่ขนานด้วยการทําภาคการเกษตร ซึ่งตัวสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ จะเป็นอีกหนึ่งอาชีพในการพัฒนาคนเหล่านี้ได้ เพราะกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มที่มีความรู้ สามารถที่จะนําเทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่

รวมถึงการทําการตลาดสมัยใหม่เข้ามาในภาคการเกษตรได้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งเกษตรกรหัวขบวนของธ.ก.ส.ในการที่จะทําให้เกษตรกรรายย่อยในรูปแบบเดิมมีต้นแบบที่ดีในการที่จะยกระดับคุณภาพการผลิต 

“หวังว่าโครงการนี้ นอกจากจะช่วยเติมคนเข้ามาในภาคการเกษตรแล้ว ยังจะเป็นอาชีพคู่ขนาน ไม่ว่าจะเป็นของข้าราชการที่ใกล้เกษียณอายุหรือว่า บุคคลากรองค์กรขนาดใหญ่ในเมือง ที่สามารถที่จะเตรียมทําการเกษตรคู่ขนานเพื่อรองรับมีอาชีพหลังการเกษตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการกำหนดอายุผู้กู้ว่า จะ 50 หรือ 55 ปี ต้องเสนอบอร์ดอีกครั้งในเดือนมกราคมปีหน้า”นายฉัตรชัยกล่าว 

นอกจากนั้น ธ.ก.ส.มีภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษาหรือว่าปราชญ์ชาวบ้าน ที่สามารถจะยกระดับคุณภาพต่อการผลิตทางด้านการเกษตรของกลุ่มบุคลากรที่เข้ามาในตัวสินเชื่อเกษตรของธ.ก.ส.ได้

ขณะเดียวกันธ.ก.ส.ยังเน้นปล่อยสินเชื่อเกษตรด้านการท่องเที่ยวเชิงชุมชน ซึ่งธ.ก.ส.มีชุมชนหรือว่า วิสาหกิจชุมชนที่ส่งเสริมหรือเป็นลูกค้าของธ.ก.ส.อยู่แล้ว ก็จะทำให้แข็งแรงขึ้น แล้วทําให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นว่า เพื่อนำรายได้กลับมาสู่ชุมชนและยกระดับการท่องเที่ยวจังหวัดด้วย

นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด)เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมยังอนุมัติสินเชื่อเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนไทย ภายใต้สินเชื่อคนเก่ง วงเงินรวม 5,000 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน ประกอบอาชีพในครอบครัว คิดดอกเบี้ย 0.77% ต่อเดือน โดยใช้บุคคลค้ำประกัน 

สำหรับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ดำรงตำแหน่งจนเกษียณ หรือผู้ดำรงตำแหน่งเป็นวาระ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านปล่อยกู้ 100,000 บาท/ราย สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล ปล่อยกู้ สูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท/ราย หลังธ.ก.ส.ทดลองปล่อยกู้ให้อสม. หลายพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,055 วันที่ 22 - 25 ธันวาคม พ.ศ. 2567