ผู้บริหาร MASTER ย้ำชัด! ไม่เคยนำหุ้นวางมาร์จิ้น บิ๊กล็อตขายให้กองทุนตปท.

16 ม.ค. 2568 | 15:02 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ม.ค. 2568 | 15:02 น.

ผู้บริหาร MASTER ออกโรงแจง บริษัทและผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้มีการจำนำหุ้น บิ๊กล็อต 11 ล้านหุ้น เป็นการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ให้กองทุนต่างประเทศที่เข้าถือหุ้นในระยะยาว จำนวน 4 ราย

นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER เปิดเผยว่า จากประเด็นการปรับตัวลดลงของราคาหุ้น MASTER เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ 16 ม.ค.68 นั้น จนทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลใจว่าจะเป็นการโดนบังคับขายหุ้น (ฟอร์ซเซล) หรือไม่นั้น บริษัทอยากจะออกมาให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่า ธุรกรรมดังกล่าวไม่ได้เป็นผลจากการถูกฟอร์ซเซลแน่นอน

โดยบริษัทและผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่ได้มีการจำนำหุ้นและไม่ได้นำหุ้นไปวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้น โดยข้อมูลที่ปรากฎบนระบบของทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จำนวน 27 ล้านหุ้นนั้น ไม่ได้เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่อย่างแน่นอน

สำหรับการซื้อขายรายการบิ๊กล็อตจำนวน 11 ล้านหุ้น เป็นการขายของผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 หรือ IN GLORY INVESTMENTS LIMITED ให้กองทุนต่างประเทศที่มีความสนใจและเข้าถือหุ้นในระยะยาว จำนวน 4 ราย ซึ่งได้มีการทำ Lock-up Period หรือการทำระยะเวลาห้ามขายหุ้นสามัญอยู่ 6-12 เดือน และต่อจากนี้ยังไม่มีแผนขายบิ๊กล็อตเพิ่มเติม

ส่วนกรณีข่าวลือด้านลบที่ปรากฎขึ้นบนสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะในเรื่องของความกังวลใจต่อผลประกอบการของบริษัทที่อาจไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทขอยันยืนว่า ในปัจจุบันทุกอย่างยังคงดำเนินตามปกติและยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ สำหรับการเสียชีวิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลของบริษัทก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในการซื้อขายช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น บริษัทก็ยังไม่ทราบสาเหตุแต่อย่างใด เนื่องจากการดำเนินงานก็ยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้  โดยในปี 68 บริษัทคาดว่าการเติบโตของรายได้ยังคงสามารถทำได้ไม่น้อยกว่า 20% สอดรับตามการขยายฐานลูกค้าต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 อันดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 20 มี.ค.67)

  1. นายระวีวัฒน์ มาศฉมาดล จำนวน 129,937,368 หุ้น หรือ 49.22%
  2. IN GLORY INVESTMENTS LIMITED จำนวน 44,000,000 หุ้น หรือ 16.67%
  3. นายพงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี จำนวน 6,609,870 หุ้น หรือ 2.50%
  4. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด จำนวน 5,577,171 หุ้น หรือ 2.11%
  5. นางสาวภาสิตา ลี้สกุล จำนวน 5,500,132 หุ้น หรือ 2.08%
  6. นายปรีชา ส่งวัฒนา จำนวน 4,903,937 หุ้น หรือ 1.86%
  7. นายคเชนทร์ เบญจกุล จำนวน 4,651,000 หุ้น หรือ 1.76%
  8. นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์ จำนวน 3,940,000 หุ้น หรือ 1.49%
  9. นายสุระ คณิตทวีกุล จำนวน 3,096,550 หุ้น หรือ 1.17%
  10. นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา จำนวน 3,024,080 หุ้น หรือ 1.15%

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี

  • รายได้รวม : 690.16 ล้านบาท, 1,490.36 ล้านบาท และ 1,948.93 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 162.80 ล้านบาท, 300.92 ล้านบาท และ 416.30 ล้านบาท
  • กำไรสะสม : 66.31 ล้านบาท, 104.42 ล้านบาท และ 421.99 ล้านบาท

ผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 67 เทียบ 66

  • รายได้รวม : 1,500.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126.1 ล้านบาท หรือ 9.17%จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 1,374.20 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ : 303.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 50.34 ล้านบาท หรือ 19.90% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 252.85 ล้านบาท
  • กำไรสะสม : 683.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 398.02 ล้านบาท หรือ 139.50% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 285.26 ล้านบาท