นายสัญชัย ปอปลี ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า คนในวงการคริปโต ส่วนใหญ่สนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากมีนโยบายชัดเจนส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การประกาศลงทุน 1 ล้านบิตคอยน์เพื่อเป็นทุนสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ยังมีนโยบายออกกฎหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรม Web 3.0 ต่างจากนางกมลา แฮร์ริส ที่มีนโยบายส่งเสริมคริปโตจริงแต่ยังไม่ชัดเจน
ขณะที่นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าหากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะและดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะบิตคอยน์ อาจได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมาก โดยมีแนวโน้มว่าโดนัลด์ ทรัมป์ อาจผลักดันให้สหรัฐฯ ซื้อบิตคอยน์จำนวน 1 ล้านบิตคอยน์ เพื่อใช้เป็นหลักประกันให้กับสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งอาจทำให้บิตคอยน์กลายเป็นสินทรัพย์หลักในตลาดการเงินโลก
“ผู้ประกอบการในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลเชื่อว่าหากแผนนี้เกิดขึ้นจริง สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์จะกลายเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญในตลาดโลก และจะมีบทบาทมากขึ้นในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย”
ขณะที่นายอัฏฐ์ ทองใหญ่ อัศวานันท์ ประธานสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (TDO) กล่าวว่าการชิงขัยในศึกการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นางกมลา แฮร์ริส ที่มีนโยบายสนับสนุนสินทรัพย์ดิจิทัล ทั้งคู่นั้นไม่มีผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมองว่าผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล คือ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) หรือ ก.ล.ต.สหรัฐ ซึ่งนโยบายของ ก.ล.ต.สหรัฐ จะเป็นตัวขับเคลื่อนอุตสาหกรรมและผุ้ประกอบการในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล