สินทรัพย์ US Senior Loan น่าสนใจอย่างไร เมื่อ FED ลดดอกเบี้ย

26 ต.ค. 2567 | 13:19 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2567 | 13:19 น.

สินทรัพย์ US Senior Loan น่าสนใจอย่างไร เมื่อ FED ลดดอกเบี้ย: คอลัมน์มันนี่ดีไอวาย โดยณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด

การประชุม FOMC เมื่อวันที่ 17-18 ก.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นวันสำคัญของตลาดทุนที่นักลงทุนทั่วโลกเฝ้าจับตามองว่า Fed จะเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกหรือไม่ เพราะจะเป็นการลดดอกเบี้ยในรอบ 4 ปีนับตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งบทสรุปอย่างที่นักลงทุนได้ทราบกันแล้วคือ Fed มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายถึง 50 bps ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบสนองทิศทางบวกในทันที

อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้าก็ยังมีความกังวลว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีโอกาสเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือไม่ 

ด้านเศรษฐกิจสหรัฐฯ ดูไม่น่ากังวลนัก จากตัวเลขการคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสของ Fed (Summary of Economic Projection) เมื่อเดือน ก.ย. ที่ออกมา ไม่ได้สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจจะถดถอยในระยะอันใกล้แต่อย่างใด

  • คาดการณ์ GDP ปี 2024 ถูกปรับลดลงเพียงเล็กน้อยจาก 2.1% เป็น 2.0% และคาดการณ์ GDP สำหรับปี 2025-2026 คงไว้ที่ระดับ 2.0% เช่นเดิม
  • ส่วนอัตราการว่างงาน เพิ่มขึ้นจาก 4.0% เป็น 4.4% ทั้งในปีนี้และปีหน้า สะท้อนตลาดแรงงานชะลอตัวแต่ไม่ได้ซบเซาจนเข้าใกล้ระดับเศรษฐกิจถดถอยในอดีต
  • ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core PCE) ลดลงทั้งปีนี้และปีหน้า และจะเข้าสู่เป้าหมายของ Fed ที่ 2% ในปี 2026  

ด้านตลาดการลงทุน ที่มักเป็นการมองไปข้างหน้า (Forward-Looking) ยังค่อนข้างคลุมเครือ เพราะจากสถิติในอดีตบ่งชี้ว่าหาก Fed เริ่มมีการลดดอกเบี้ยครั้งแรก ผลตอบแทนของตลาดหุ้นทั่วโลกในระยะ 3-6 เดือนข้างหน้าจะแตกต่างกัน โดยขึ้นอยู่กับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯว่า

จะเป็นแบบชะลอตัวแต่ไม่ถดถอย (Soft Landing) ที่ Fed จะสามารถค่อยๆ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามข้อมูลเศรษฐกิจ หรือจะเป็นแบบถดถอย (Recession) ซึ่งอาจทำให้ Fed ต้องอัดยาแรงโดยการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว

จากเหตุปัจจัยข้างต้น การลงทุนในช่วงวัฏจักรการลดดอกเบี้ยของ Fed หลังจากนี้จึงอาจมีความผันผวนได้จากความไม่ชัดเจนในเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจ ทั้งด้านการเติบโต การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งคาดเดาได้ยากและมีความไม่แน่นอนสูง

ด้วยเหตุนี้ สินทรัพย์ประเภท US Senior Loan หรือ สินเชื่อไม่ด้อยสิทธิและมีหลักประกันในสหรัฐอเมริกา น่าจะช่วยตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางสภาวะที่ตลาดมีความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายของ Fed และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการกระจายการลงทุนจากตลาดหุ้นโลกที่โดยรวมอยู่ในระดับราคาที่สูงและตึงตัวมากขึ้น

การลงทุนในสินทรัพย์ US Senior Loan นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอ และด้วยลักษณะการจ่ายดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating rate) ที่ส่วนใหญ่มักจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยใหม่ทุกๆ 1-3 เดือน

ส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอมี Effective Duration ต่ำใกล้เคียง 0 ทำให้มีความผันผวนต่อทิศทางของดอกเบี้ยต่ำกว่าการลงทุนในหุ้นกู้หรือพันธบัตรชนิดอื่นทั่วไปที่มี Duration ยาวกว่า

นอกจากนี้ หากเกิดเหตุการณ์ผิดนัดชำระหนี้ ด้วยศักดิ์ของเจ้าหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ (Senior) และมีหลักประกัน (Secured) ทำให้นักลงทุนใน US Senior Loan จะได้รับการชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา US Senior Loan จึงมีอัตราการได้รับชําระคืนเมื่อเกิดการผิดนัดชําระหนี้ (Recovery Rate) ที่สูงกว่าการลงทุนในหุ้นกู้ชนิดอื่นด้วยน

สินทรัพย์ US Senior Loan น่าสนใจอย่างไร เมื่อ FED  ลดดอกเบี้ย

ขณะที่ อัตราดอกเบี้ยที่จะทยอยปรับตัวลงมา ที่ช่วยเรื่องของ Sentiment การลงทุนที่นักลงทุนจะตอบรับในเชิงบวกที่ดีขึ้นแล้ว ยังช่วยสนับสนุนในเรื่องของปัจจัยพื้นฐาน เนื่องจากดอกเบี้ยที่ลดลงจะส่งผลดีต่อมุมมองด้านเครดิตของบริษัทผู้กู้โดยรวมอีกด้วย

เนื่องจากต้นทุนทางการเงินของบริษัทต่างๆโดยรวมจะต่ำลงจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงและตัวเลขอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทโดยรวมดีขึ้น ความเสี่ยงด้านเครดิตหรือความเสี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ที่ลดลงนี้เป็นผลดีสำหรับนักลงทุนในสินเชื่อ 

สุดท้ายนี้ ด้วยมุมมองจากนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ชั้นนำทั่วโลกที่ส่วนใหญ่ยังคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ไม่น่ากลับไปอยู่ในระดับต่ำราว 0% ได้อย่างที่เคยเกิดขึ้นในช่วงโควิด

ประกอบกับเป้าหมายการควบคุมอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของ Fed จึงทำให้นักลงทุนใน US Senior Loan จะมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูงต่อไป เนื่องจาก Credit Spread ของ US Senior Loan อยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 500 bps ซึ่งเมื่อรวมกับ Base Rate ในปัจจุบัน นักลงทุนอาจได้รับผลตอบแทนจาก coupon สูงถึง 9%

ในขณะที่เชิงมูลค่าพื้นฐาน การลงทุนใน US Senior Loan ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับตัวเองและเทียบสินทรัพย์ใกล้เคียงกันอย่าง High Yield Bond

โดยดูข้อมูลจาก Credit Spread ของ US Senior Loan ยังสูงกว่าค่ากลาง Credit Spread ของตัวเองย้อนหลัง 10 ปีและสูงกว่า High Yield Bond ที่มี Credit Spread ที่แคบกว่ามาก ในขณะที่ ความเสี่ยงด้านเครดิตทั้งมีความใกล้เคียงกัน (ข้อมูลจาก Invesco ณ 31 สิงหาคม 2567)

อีกทั้ง อัตราการผิดนัดชำระหนี้ยังอยู่ในระดับต่ำจึงไม่ได้น่ากังวล การลงทุนในสินทรัพย์ประเภท Senior Secured Loan จึงอาจใช้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดพอร์ตลงทุน เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยสม่ำเสมอได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์การลงทุนที่น่าสนใจในช่วงเวลานี้

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,039 วันที่ 27 - 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567