บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า ต่างชาติขายหุ้นไทยติดต่อกันนาน 26 วันทำการ นานสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ จากสถิติข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) พบว่าตลอดช่วง 1 เดือนกว่าๆ ( 21 พ.ค. – 27 มิ.ย. 67) หรือราว 26 วันทำการ ต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยติดต่อกันทุกวัน และเป็นการขายสุทธิติดต่อกันนานสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ ด้วยมูลค่ารวม 49,015.23 ล้านบาท กด SET INDEX ปรับตัวลงมา -5%
สะท้อนได้จาก ข้อมูลที่ฝ่ายวิจัย ASPS ทำการศึกษา FUND FLOW ย้อนหลังทั้งหมดที่ทางตลาดหลักทรัพย์เปิดเผยข้อมูลตั้งแต่ปี 2535 ถึงปัจจุบัน โดยการหาช่วงเวลาและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันนานสุด 10 อันดับแรก พบว่า
อันดับที่ 1 คือ ที่ต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ คือ 27 วันทำการ เกิดขึ้นในช่วงปี 2537 เป็นช่วงก่อนเกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ต่างชาติขายสุทธิไป 2.3 หมื่นล้านบาท และอันดับอื่นๆ จะสังเกตได้ว่าเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นไทยได้เผชิญกับวิกฤตต่างๆ เช่น ช่วง วิกฤตซับไพร์ม, วิกฤตดอทคอม, สงครามการค้าจีน สหรัฐ, ช่วงพฤษภาทมิฬ และ วิกฤตโควิด เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม VALUATION ณ SET INDEX ที่ 1300 จุด อยู่ในระดับที่น่าสนใจมาก มี P/E67F ที่ต่ำเพียง 14.2 เท่า (ต่ำกว่า -1SD), PBV 1.22 เท่า (ต่ำกว่า -2SD) และ DIVIDEND YIELD สูงถึง 3.5% (สูงกว่า+1SD) บวกกับความคืบหน้าการเดินหน้า กระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ, รอรับเม็ดเงินจากกองทุน THAIESG ใหม่เข้ามาหนุนและเริ่มเพิ่มเสถียรภาพจากตลาดหลักทรัพย์ อย่าง UPTICK คาดจะช่วยหนุนให้ดัชนีค่อยๆ ทยอยฟื้น รวมถึงต่างชาติอาจจะค่อยๆ ขายสุทธิเบาลงได้