ธ.ก.ส.ลุยแก้หนี้ครัวเรือน วางเป้าลดหนี้เสียปีนี้เหลือ 5.5%

26 ส.ค. 2566 | 11:15 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2566 | 11:15 น.

ธ.ก.ส. มุ่งแก้หนี้ครัวเรือนทั้งระบบ เผยไตรมาสแรกปีบัญชี 66 เติมทุนสู่ภาคชนบทไปแล้วกว่า 7.4 หมื่นล้านบาท วางเป้าสิ้นปีบัญชีลดหนี้เสียลงมาเหลือ 5.5%

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ได้วางนโยบายการขับเคลื่อนงาน ธ.ก.ส. ในการสานต่อเจตนารมณ์ “ธนาคารพัฒนาชนบทที่ยั่งยืน” ที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรและการปรับทิศทางสู่อุตสาหกรรมเกษตร เพื่อสร้างการเติบโตในทุกมิติ โดยเริ่มจากการแก้ไขปัญหาหนี้สินครัวเรือนในภาคเกษตร โดยใช้ฐานข้อมูลและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูล การจัดกลุ่มลูกค้า การพัฒนาเครื่องมือและช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น เช่น การชำระหนี้ผ่านแอปพลิเคชัน A-Mobile Plus และBanking Agent เป็นต้น

การจัดทำมาตรการมีมากจ่ายมาก มีน้อยจ่ายน้อย เพื่อรักษาวินัยในการชำระหนี้ ซึ่งภาพรวมจากการใช้มาตรการต่างๆ ทำให้อัตราหนี้ที่มีปัญหาลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย ณ 30 มิถุนายน 2566 สามารถลด NPL ได้ 5,105 ล้านบาท โดยมีเกษตรกรที่ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้ไปแล้ว จำนวน 184,697 ราย จำนวนต้นเงินคงเป็นหนี้ 78,931 ล้านบาท 

ขณะเดียวกันยังจูงใจลูกค้าที่ชำระหนี้ดีด้วยโครงการชำระดีมีโชค โดยลูกค้าที่ชำระหนี้ตรงตามกำหนดเวลา ธนาคารจะนำจำนวนดอกเบี้ยที่ชำระจริงทุก ๆ 1,000 บาท มอบเป็นสิทธิประโยชน์ในการชิงโชค รางวัลรวมมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท รวมถึงมีการให้คำปรึกษาด้านการบริหารจัดการ ทั้งหนี้ในและนอกระบบผ่านโครงการมีหนี้นอกบอกธ.ก.ส. 

"สามารถแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้เกษตรกรลูกค้าและบุคคลในครัวเรือนให้กลับเข้ามาอยู่ในระบบของ ธ.ก.ส. ไปแล้วกว่า 710,123 ราย เป็นเงินกว่า 59,000 ล้านบาท"

ในด้านเงินทุน ธ.ก.ส. พร้อมเติมสินเชื่อใหม่ภายใต้อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน เพื่อให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการผลิต พัฒนาคุณภาพและยกระดับผลิตภัณฑ์สู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.01 ต่อปี สินเชื่อ SME เสริมแกร่ง และสินเชื่อสานฝันสร้างอาชีพ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี เป็นต้น 

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีบัญชี 2566 (เมษายน – มิถุนายน 2566) ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อในภาคการเกษตรไปแล้วจำนวน 74,048 ล้านบาท ทำให้มียอดสินเชื่อสะสมคงเหลือ จำนวน 1,631,268 ล้านบาทยอดเงินฝากสะสม 1,825,943 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 2,065 ล้านบาท 

ขณะที่ NPL อยู่ที่ร้อยละ 8.07 โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ร้อยละ 12.95 สูงกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนด โดยตั้งเป้าในปีบัญชี 2566 ปล่อยสินเชื่อภาคการเกษตรเติบโตเพิ่มขึ้น85,000 ล้านบาท เงินฝากเพิ่มขึ้น 12,000 ล้านบาท และ ลดหนี้ NPL ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 5.5 

โดยมุ่งเน้นการเชื่อมโยงธุรกิจเกษตรตลอดห่วงโซ่การผลิต การนำเทคโนโลยีมาปรับปรุงกระบวนการทำงานแบบAgile ร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจและเครือข่ายการเกษตร รองรับการเติบโตใหม่ในกลุ่ม Smart Farmer AgriTech และ Startup พร้อมนำจุดแข็งขององค์กรคือ “คนของเรารักลูกค้า” มาเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการสร้างคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้ดีขึ้น (Better Life) สร้างชุมชนไทยให้เข้มแข็ง (Better Community) และสร้างความภาคภูมิใจในอาชีพการเกษตรให้มากยิ่งขึ้น (Better Pride) เพื่อยกระดับชีวิตเกษตรกรไทยสู่สังคมที่ภาคภูมิ