ดาวโจนส์ปิดร่วง 174.86 จุด กังวลเฟดคงดบ.สูง-แบงก์สหรัฐถูกหั่นเครดิต

23 ส.ค. 2566 | 06:55 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ส.ค. 2566 | 06:58 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (22 ส.ค.) นักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าเฟด จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับสูง และการที่ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังเอสแอนด์พี ปรับลดเครดิต

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 34,288.83 จุด ลดลง 174.86 จุด หรือ -0.51%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,387.55 จุด ลดลง 12.22 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,505.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.28 จุด หรือ +0.06%

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า การที่นักลงทุนมีความวิตกกังวลว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเพื่อสกัดเงินเฟ้อนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปียังคงเคลื่อนไหวในระดับสูง และทำให้ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวขึ้นด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค
         

ทั้งนี้ นักลงทุนคาดหวังว่านายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 10.05 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.05 น.ตามเวลาไทย

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคาร (S&P 500 Banks index) ดิ่งลง 2.4% และดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารภูมิภาค (KBW regional bank index) ร่วงลง 2.7% หลังจาก S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารคีย์คอร์ป, โคเมริกา อิงค์, วัลเลย์ เนชันแนล แบงคอร์ป, ยูเอ็มบี ไฟแนนเชียล คอร์ป และแอสโซซิเอทเต็ด แบงก์-คอร์ป ลง 1 ขั้น โดยระบุถึงผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น และการโยกย้ายเงินฝากที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภาคธนาคาร

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของ S&P เกิดขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ หลังจากมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความเชื่อถือของธนาคารขนาดกลางและขนาดเล็กของสหรัฐจำนวน 10 แห่งลง 1 ขั้น โดยเตือนว่าภาคธนาคารของสหรัฐเผชิญความเสี่ยงจากต้นทุนการระดมทุนที่สูงขึ้น การลดลงของเงินฝาก และอัตราการทำกำไรที่อ่อนแอลง หลังการล่มสลายของธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) และซิกเนเจอร์ แบงก์ (SB)

นักลงทุนจับตาผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีงบการเงิน 2567 ของบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ในวันนี้ โดยอินวิเดียเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ และมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนส.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล และยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.

ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. และในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน