ตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ค. 66 ดัชนีปิด 1,556.06 จุด ดีดตัวจากเดือนก่อน 3.5%

07 ส.ค. 2566 | 15:35 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ส.ค. 2566 | 16:45 น.

ตลท. สรุป ภาวะตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ค. 66 ดัชนีปิดที่ 1,556.06 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนก่อนหน้ามูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 46,000 ล้านบาท ด้าน ADB ปรับเพิ่มประมาณการณ์ GDP ไทยโต 3.5% ในปีนี้

(7 ส.ค. 66) ภาวะตลาดหุ้นไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 SET Index ปิดที่ 1,556.06 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 3.5% จากเดือนก่อนหน้า และปรับลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อนหน้า โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2565 ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี และ กลุ่มการเงิน

สำหรับมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน SET และ mai อยู่ที่ 46,002 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า25.3% โดยมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันใน 7 เดือนแรกปี 2566 อยู่ที่ 56,873 ล้านบาท 

ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิเป็นเดือนที่ 6 โดยในเดือนกรกฎาคม 2566 ผู้ลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 12,558 ล้านบาท และมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 15 

ในส่วนของผู้ลงทุนรายย่อยในประเทศแม้ว่าจะมีมูลค่าการซื้อขายลดลงจากช่วงต้นปี แต่จำนวน Active accounts ในช่วงหลัง COVID-19 Pandemic เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อน COVID-19 Pandemic

ภาพประกอบ ภาวะตลาดหุ้นไทยเดือน ก.ค. 66

ขณะที่ Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 17.0 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 13.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 21.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.6 เท่า ส่วนอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 3.12% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.20%

ภาพประกอบ รายงานภาวะเศรษฐกิจของ ADB

ด้านนายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า ในเดือนกรกฎาคม 2566 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) รายงานว่าภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 ในอัตราที่มั่นคงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีแนวโน้มขยายตัวลดลงมาที่ 4.6% ในปีนี้ และ 4.9% ในปีหน้า 

ทั้งนี้ ADB ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยเพิ่มเป็น 3.5% จากที่เคยประมาณการไว้ที่ 3.3% ในเดือนเมษายน 2566 และหากพิจารณาจากอัตราส่วน Forward PE ของ SET Index ค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต ทำให้ผู้ลงทุนบุคคลและสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 6 เดือนต่อเนื่อง

ขณะที่ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ในเดือนกรกฎาคม 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 474,850 สัญญา ลดลง 22.0% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ SET50 Index Futures และ Single Stock Futures 

โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2566 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 546,687 สัญญา ลดลง 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ Single Stock Futures

ด้านนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยทั้งปี 2566 ว่า ในภาพรวมความเสี่ยงลดลง หากมีความชัดเจน เงินทุนต่างชาติจะเริ่มไหลกลับเข้าไทย 

แต่ยอมรับว่าผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ในกลุ่มเดียวกันบางรายฟื้นตัว บางรายยังมีปัญหา รายได้ไม่เป็นไปตามคาดการณ์ โดยแต่ละรายฟื้นตัวไม่เท่ากัน 

พร้อมกันนี้ยังต้องเอาใจช่วยให้มีการ จัดตั้งรัฐบาล โดยเร็วเพื่อที่จะได้กำหนดกรอบนโยบาย ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และการจัดทำงบประมาณได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจของนักลงทุนให้กลับมาเช่นกัน