ซีอีโอ TOA ย้ำไม่อุ้ม STARK เหตุไม่ใช่ธุรกิจกงสี

16 มิ.ย. 2566 | 16:43 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มิ.ย. 2566 | 16:44 น.
544

ซีอีโอ TOA ยันไม่เคยถกปมปัญหา STARK ในครอบครัว ชี้เป็นเรื่องธุรกิจส่วนตัวของ "วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ" ย้ำไม่เคยมีการเสนอขายธุรกิจให้ ส่วนแนวทางออกของปัญหายังเป็นเรื่องของอนาคต

กระแสข่าวของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" ยังร้อนแรงสั่นสะเทือนวงการตลาดหุ้น รวมถึงมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ "TOA" ในเรื่องที่ถูกกระแสสังคมมองว่าเป็นธุระกิจของครอบครัว "ตระกูลตั้งคารวคุณ

เนื่องจากการที่ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อันดับ 1 ของ STARK และยังเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 ของ TOA เรื่องดังกล่าวจึงกลายเป็นที่จับตาว่ามีเอี่ยวในงาน STARK หรือไม่ แล้วจะช่วยยื่นมือเข้าแก้ปัญหาไหมยังเป็นเรื่องที่น่าติดตาม

ย้อนไปในช่วงการเกิดเรื่องแลเปัญหาของ STARK มาจากการเลื่อนส่งงบการเงินปี 2565 ออกไปจากเดิมที่ต้องส่งภายในวันที่ 31 มี.ค. 66 จนปัจจุบันยังไม่นำส่งงบดังกล่าว

จนไปสู่การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ซึ่งการที่ไม่สามารถส่งงบการเงินได้ จะนำไปสู่เหตุให้ถูกเพิกถอนออกไปจากตลาดได้

ทั้งนี้การส่งงบล่าช้าทำให้ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หรือการห้ามซื้อขายหุ้นชั่วคราว ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อยต้องติดดอยไปตามๆกัน ตามตัวเลขเมื่อวันที่ 4 เม.ย. 66 ที่มีผู้ถือหุ้นรายย่อยรวม 9,631 ราย

รวมถึงกลุ่มกองทุนต่างๆที่อาจขาดทุนรวมกันมากกว่า 5,000 ล้านบาทในเรื่องนี้ นี่ยังไม่นับรวมถึงเรื่องของหุ้นกู้อีกจำนวน 5 ชุด มูลค่ารวม 9,198.4 ล้านบาท

นายจตุภัทร ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "TOA"

ล่าสุดมีงานพบปะสื่อของทาง TOA นับเป็นครั้งแรกที่ นายจตุภัทร ตั้งคารวคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) "TOA" ออกมากล่าวถึงกรณีของ STARK หลังทาง TOA เคยออกหนังสือชึ้แจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

โดยในงานนี้ นายจตุภัทร ยืนยันผ่านสื่อชัดเจนว่า เรื่อง STARK เป็นการลงทุนส่วนตัวของ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ พี่ชาย ซึ่งแม้จะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นใหญ่ใน TOA แต่ก็มีสัดส่วนเพียง 9%

ไม่ถือว่ามีนัยสำคัญต่อบริษัท และทางกลุ่มตั้งคารวคุณที่ดูแล TOA อยู่คงไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือกรณีของ STARK ได้ เพราะครอบครัวไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว

"นายวนรัชต์ก็ไม่เคยมาพูดคุยในเรื่องนี้ แม้จะยอมรับว่าเพื่อนฝูงหลายคนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นและหุ้นกู้ STARK เมื่อได้รับความเดือดร้อนก็มาพูดให้ฟัง แต่ขณะที่เห็นว่ายังเร็วเกินกว่าที่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ คงต้องรอติดตามการเปิดเผยงบการเงินของ STARK เหมือนกับทุกคน ไม่ใช่ว่าเราอยากช่วยแล้วจะทำได้ เพราะเป็นธุรกิจส่วนตัวของทางโน้น ซึ่งไม่เคยเล่าอะไรให้เราฟัง แต่หากมีการนำเสนอข้อมูลอย่างเป็นทางการแล้วคงต้องคุยกันในครอบครัว ซึ่งคงเร็วไปที่ตอบอะไรเวลานี้" นายจตุภัทร กล่าว

และเมื่อสอบถามถึงการเสนอขายธุรกิจ STARK ว่าเคยมีการมาเสนอให้หรือไม่นั้น นายจตุภัทร บอกชัดว่า นายวนรัชต์ ไม่เคยมาเสนอขายธุรกิจ STARK และขณะนี้ถือว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดคุยเรื่องนี้

ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเพราะยังอีกไกล ตอนนี้ก็ยังไม่มีแผนการเข้าลงทุนธุรกิจอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มสีและวัสดุก่อสร้าง นอกเหนือจากที่ได้เข้าไปลงทุนแล้วใน 7 กลุ่มธุรกิจ

ปัจจุบันทายาทของ นายประจักษ์ ตั้งคารวคุณ เข้ามาดูแลธุรกิจในเครือประกอบด้วย

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ลูกชายคนโต ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น หรือ "STARK"

นายจตุภัทร์ ตั้งคารวคุณ ลูกชายคนที่สองเข้ามาบริหารงานใน TOA

นายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ ลูกชายคนที่สาม เข้ามาบริหารงาน TOAVH ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ TOA

นางบุศทรี หวั่งหลี ลูกสาวคนสุดท้อง ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พูลผลทรัพย์ จำกัด หรือ PPS

ย้อนดูงบการเงินในช่วงที่ผ่านมาของ STARK

ปี 2561

สินทรัพย์รวม 780.96 ล้านบาท

หนี้สินรวม 681.23 ล้านบาท

รายได้รวม 361.65 ล้านบาท

กำไรสุทธิ -183.65 ล้านบาท

ปี 2562

สินทรัพย์รวม 12,654.69 ล้านบาท

หนี้สินรวม 10,341.33 ล้านบาท

รายได้รวม 11,607.71 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 123.92 ล้านบาท

ปี 2563

สินทรัพย์รวม 27,316.49 ล้านบาท

หนี้สินรวม 23,552.77 ล้านบาท

รายได้รวม 16,917.68 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 1,608.66 ล้านบาท

ปี 2564

สินทรัพย์รวม 39.142.11 ล้านบาท

หนี้สินรวม 32,550.85 ล้านบาท

รายได้รวม 27,129.64 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 2,783.11 ล้านบาท

ปี 2565 (งบ 9 เดือนแรก)

สินทรัพย์รวม 47,096.41 ล้านบาท

หนี้สินรวม 38,362.30 ล้านบาท

รายได้รวม 21,877.25 ล้านบาท

กำไรสุทธิ 2,216.47 ล้านบาท