"หมอเสริฐ"เทขาย BDMS ต่อเนื่อง 2 เดือน กว่า 31 ล้านหุ้น มูลค่า 900 ล้าน

13 มิ.ย. 2566 | 08:48 น.
อัปเดตล่าสุด :13 มิ.ย. 2566 | 09:03 น.
1.1 k

"หมอเสริฐ" เทขายหุ้น บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ ( BDMS) ต่อเนื่องร่วม 2 เดือนกว่า 31 ล้านหุ้นมูลค่ากว่า 905 ล้านบาท เฉลี่ยหุ้นละ 29.13 บาท หลังล่าสุด ( 8-9 มิ.ย.) เพิ่งขาย 11.99 ล้านหุ้น

13 พฤษภาคม 2566 ข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของผู้บริหาร (แบบ59) พบว่า นายปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ หรือ “ หมอเสริฐ ”  กรรมการ บริษัทกรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS 

ได้ขายหุ้น BDMS ในช่วง 2 วัน ( 8 - 9 มิ.ย.2566 ) จำนวน 3 รายการ รวม 11,995,900 หุ้น รวมมูลค่า  343,484,470 บาท หรือเฉลี่ยที่หุ้นละ 28.63 บาท ดังนี้

  • วันที่ 8 มิ.ย.2566 ขายจำนวน 3,966,300 หุ้น หุ้นละ 28.50 บาท มูลค่า 113,039,550 บาท
  • วันที่ 9 มิ.ย. 2566 ขายจำนวน 6,033,700 หุ้น หุ้นละ 28.60 บาท มูลค่า 172,563,820 บาท
  • วันที่ 9 มิ.ย. 2566 ขายจำนวน 1,995,900 หุ้น หุ้นละ  29.00 บาท มูลค่า 57,881,100 บาท 

นอกจากนี้ หากรวมการขายหุ้น BDMS ของ "หมอเสริฐ" ในรอบเดือนพ.ค. 2566  ( ช่วงวันที่ 12,15,16,17 ) จำนวน 4 รายการ รวม 19.07 ล้านหุ้น มูลค่า 561.55 ล้านบาท เฉลี่ยที่หุ้นละ 29.45 ล้านบาท

จะพบว่าในรอบเกือบ 2 เดือน หมอเสริฐ ขายหุ้น BDMS ไปแล้วทั้งสิ้น  31,065,900 หุ้น มูลค่ารวม 905.03 ล้านบาท หรือเฉลี่ยที่หุ้นละ  29.13 บาท 

\"หมอเสริฐ\"เทขาย BDMS ต่อเนื่อง 2 เดือน กว่า 31 ล้านหุ้น มูลค่า 900 ล้าน

 

ขณะที่ "หมอปุย" นางสาวปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถ (บุตรสาว) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่  BDMS เข้าซื้อหุ้น BDMS ช่วงวันที่ 24 - 25 พ.ค. 2566  รวม 2 รายการ  จำนวน 3,528,100 หุ้น มูลค่ารวม 99,136,575 บาท เฉลี่ยหุ้นละ  28.10 บาท 

การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น BDMS ปิดซื้อขาย เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2566 ที่ราคา 28.75 บาท และวันที่ 12 มิ.ย. 2566 ปิดซื้อขายที่ 29.00 บาท ปรับขึ้น 0.25 บาท หรือ + 0.87% มูลค่าการซื้อขาย 1,129.50 ล้านบาท โดยในรอบ 1 ปี ราคาปรับต่ำสุดอยู่ที่ 24.00 บาท และสูงสุดที่ 32.00  บาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ปัจจุบันอยู่ที่ 460,868.05 ล้านบาท

ด้านบล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ยังคงน้ำหนักลงทุน Neutral สำหรับกลุ่มกรแพทย์ เนื่องจากคาดปีนี้กำไรสุทธิรวมของกลุ่มฯลดลง 15% เมื่อเทียบจากปีก่อน ยังเป็นช่วงปรับฐานกำไรของ BCH, CHG และ THG ส่วน BDMS, BH คาดกำไรกลับมาเติบโตในอัตราปกติ ส่วนทิศทางระยะสั้นในช่วงครึ่งหลังปี 66 คาดว่า BCH และ CHG มีโอกาสฟื้นตัว Outperform กลุ่มฯ จากคาดกำไรครึ่งปีหลัง เริ่มกลับมาเติบโตเมื่อเทียบจากปีก่อน เด่นกว่ากลุ่มฯ

สำหรับ BDMS แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 33.80 บาท มองว่ายังน่าสนใจลงทุนในมการเติบโตของกลุ่มลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะจีน และต่างชาติกลุ่มใหม่ๆ จากมีความพร้อมทั้ง Capacity และมี Ecosystem ของการให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร

สำหรับหุ้นเด่นเลือก BCH แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23.50 บาท และ CHG แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 4.50 บาท