STARK แจงแผนกลับมาเทรดชั่วคราว 1 เดือน ยันแจ้งงบทันภายใน 16 มิ.ย.นี้

24 พ.ค. 2566 | 15:07 น.
อัปเดตล่าสุด :24 พ.ค. 2566 | 15:10 น.

"STARK"แจงกลับมาเทรดชั่วคราว เริ่ม 1- 30 มิ.ย. นี้ ยันส่งงบบัญชีเบื้องต้นได้ภายใน 16 มิ.ย.นี้ พร้อมเร่งนัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 31 พ.ค. เตรียมจ้าง BIG4 สอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ ( special audit )

นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ กรรมการ บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ชี้แจง

1. ความคืบหน้าของการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 การตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะปลดเครื่องหมายห้ามซื้อหรือขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว (SP) ในวันที่ 1 มิ.ย.66 เพื่อเปิดให้มีการซื้อขายหุ้น STARK เป็นระยะเวลา 1 เดือนในระหว่างวันที่ 1- 30 มิ.ย.66 บริษัทจึงได้ประสานงานกับผู้สอบบัญชีในการเร่งสอบทานงบการเงินประจำปี 2565 เพื่อให้บริษัทสามารถเปิดเผยข้อมูลทางบัญชีเบื้องต้นแก่นักลงทุนในระหว่างที่มีการเปิดให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการชั่วคราว ซึ่งบริษัทคาดว่าจะสามารถเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ได้ภายในวันที่ 16 มิ.ย.66 อย่างไรก็ตาม หากมีเหตุการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดความล่าช้าจนบริษัทไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลภายในระยะเวลาข้างต้น บริษัทจะดำเนินการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์โดยเร็วที่สุด

อนึ่ง เนื่องจากบริษัทจะต้องอาศัยข้อมูลจากงบการเงินประจำปี 2565 ในการจัดทำแบบแสดงรายงานข้อมูลประจำปี 2565 (แบบ 56-1one report ประจำปี 2565) บริษัทจึงไม่สามารถจัดทำและนำส่งเอกสารดังกล่าวให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้จึงจะจัดการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 31 พ.ค.66 เพื่อพิจารณาขอยกเว้นเหตุผิดนัดที่เกี่ยวกับการนำส่งแบบ 56-1one report ประจำปี 2565

อย่างไรก็ดี บริษัทรับทราบและตระหนักว่าสถานการณ์ที่ยังมีความไม่ชัดเจนก่อให้เกิดความกังวลกับผู้ที่เกี่ยวข้อง บริษัทจึงได้ดำเนินการดังต่อไปนี้ เพื่อบรรเทาความกังวลและเรียกคืนความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้นกู้และผู้ลงทุน

แนวทางแก้ไข
         

(1) ให้ความร่วมมือกับผู้แทนผู้หุ้นกู้ในการให้ข้อมูลที่จำเป็นกับผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เพื่อการจัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมการที่จะทำหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัท และความคืบหน้าในการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องผ่านระบบสารสนเทศของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพื่อให้เห็นว่าบริษัทยังคงดำเนินการที่จำเป็นเพื่อกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทตลอดมา

(2) จ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้จำนวนทั้งสิ้น 67.1 ล้านบาทตามกำหนดชำระในเดือนพฤษภาคม 2566 กล่าวคือ

 

STARK แจงแผนกลับมาเทรดชั่วคราว 1 เดือน  ยันแจ้งงบทันภายใน 16 มิ.ย.นี้

         

(3) จัดตั้งสายด่วน (hotline) เพื่อเพิ่มช่องทางในการให้ข้อมูล กระจายข้อมูลและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์บริษัท โดยบริษัทได้จัดตั้งทีมงานสื่อสารขึ้นใหม่เป็นการเฉพาะให้ทำงานร่วมกับฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ (investor relations) เพื่อรวบรวมคำถาม จัดเตรียมและนำส่งข้อมูลคำตอบที่ถูกต้องให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้และผู้ลงทุนเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทอย่างถูกต้อง
         

(4) เร่งดำเนินการการจัดทำงบการเงินประจำปี 2565 เพื่อนำข้อมูลมาจัดทำ (1) แบบแสดงรายงานข้อมูลประจำปี 2565 (แบบ 56-1one report ประจำปี 2565) และ (2) งบการเงินงวดไตรมาสที่ 1 ปี 2566 โดยเร็วที่สุด เพื่อลดผลกระทบแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย

2.การตรวจพบธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติโดยผู้สอบบัญชีตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. ขอให้บริษัทชี้แจงประเด็นที่ผู้สอบบัญชีตั้งเป็นข้อสังเกตเกี่ยวกับเรื่องที่มีนัยสำคัญและเป็นเหตุบ่งชี้ที่อาจแสดงได้ว่ามีการกระทำที่เข้าข่ายเป็นการทุจริตหรือทำให้บริษัทได้รับเสียหายเกิดขึ้นนั้น          

บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทได้แต่งตั้งผู้บริหารชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงระบบการควบคุมภายในให้รัดกุมยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการและป้องกันมิให้เกิดความเสียหายแก่บริษัท และในส่วนของการดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญนั้น ผู้สอบบัญชีและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดในเชิงลึกเพื่อตรวจสอบธุรกรรมทางเงิน ข้อมูลทางบัญชี รายการเดินบัญชี เส้นทางการเงินและจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะชี้แจงข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมให้กับสำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่ชักช้าเมื่อได้รับข้อมูลที่ตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดแล้วจากผู้สอบบัญชีและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องจากการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit)

ทั้งนี้ คณะกรรมการและผู้บริหารชุดปัจจุบันต่างก็มิได้นิ่งนอนใจกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะดำเนินการใด ๆ ที่จำเป็นเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัท ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทุกราย ตามขั้นตอนและกระบวนการที่เหมาะสม ภายใต้กฎเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องจนถึงที่สุดเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงดังกล่าว

3. การใช้เงินจากการออกหุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด เนื่องจากผู้บริหารที่แต่งตั้งขึ้นใหม่เพิ่งเข้ามาปฏิบัติหน้าที่แทนกลุ่มเดิมได้เพียง 1 เดือน ได้ใช้ความพยายามในการตรวจสอบข้อเท็จจริงและเอกสารเพื่อหาข้อมูลต่างๆ เบื้องต้น บริษัทพบว่าได้มีการนำเงินส่วนหนึ่งไปใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงชำระสินเชื่อธนาคารหรือบริษัทในกลุ่ม ชำระคืนหุ้นกู้ของบริษัทย่อย ชำระคืนตั๋วแลกเงิน รวมตลอดถึงการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการขยายธุรกิจและ/หรือ การลงทุนของกลุ่มบริษัท แต่เนื่องจากการตรวจสอบบัญชียังไม่แล้วเสร็จ บริษัทจึงยังไม่มีข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ เมื่อผู้สอบบัญชียืนยันความถูกต้องของรายการบัญชีเงินสดเรียบร้อยแล้ว จะชี้แจงสถานะของเงินคงเหลือในส่วนนี้ให้สำนักงาน ก.ล.ต. ทราบเพิ่มเติมโดยเร็ว

4. การใช้เงินจากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) จำนวน 5,580 ล้านบาทเมื่อช่วงเดือน ต.ค.65 เพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนเพื่อซื้อหุ้นใน LEONI Kabel GmbH เมื่อบริษัทได้บอกเลิกสัญญาซื้อขายหุ้นกับ LEONI AG และ LEONI Bordnetz-Systeme GmbH บริษัทจึงไม่ได้ใช้เงินเพิ่มทุนเข้าทำธุรกรรมดังกล่าว และอยู่ระหว่างดำเนินการปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ของการใช้เงินเพิ่มทุนให้เหมาะสม

อนึ่ง เนื่องจากการตรวจสอบบัญชีโดยผู้สอบบัญชียังไม่แล้วเสร็จ บริษัทจึงขอชี้แจงข้อมูลในส่วนนี้เพิ่มเติมเมื่อผู้สอบบัญชียืนยันความถูกต้องของรายการบัญชีเงินสดของบริษัทเรียบร้อยแล้ว

นอกเหนือจากประเด็นที่ได้ชี้แจงข้างต้น บริษัทรับทราบถึงข้อสังเกตของสำนักงาน ก.ล.ต. เกี่ยวกับขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ที่กำลังดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ว่าหากการตรวจสอบดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติ (เช่น การบันทึกยอดขายและลูกหนี้การค้า การจ่ายเงินล่วงหน้าค่าสินค้า และการจัดการสินค้าคงเหลือ) และตรวจสอบเฉพาะบริษัทย่อยรายบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด อาจส่งผลให้ได้รับข้อเท็จจริงไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปผลกระทบต่อความถูกต้องของข้อมูลในงบการเงิน

บริษัทอยู่ระหว่างการดำเนินการว่าจ้างผู้สอบบัญชีที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีหนึ่งในสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่ (Big 4) เพื่อมาทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) เพื่อทำการขยายขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ให้ครอบคลุมธุรกรรมการขาย ลูกหนี้ การรับชำระหนี้ของบริษัทย่อยทุกแห่งในช่วงระหว่างปี 64-65 การเปรียบเทียบรายการเคลื่อนไหวของเงินในบัญชีธนาคาร (bank statement) กับรายการรับจ่ายเงินที่บันทึกอยู่ในบัญชี (general ledger) ในช่วงระหว่างปี 64 ถึงเดือน เม.ย.66 และขยายการตรวจสอบไปยังธุรกรรมหรือบัญชีอื่น ตลอดจนรวบรวมหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้ในการชี้แจงต่อสำนักงาน ก.ล.ต. และหน่วยงานที่
เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งทราบความคืบหน้าภายในวันที่ 15 มิ.ย.66 ตามที่ ก.ล.ต.กำหนด