"GABLE" เทรดวันแรก 7.30 บาท เหนือจอง 14.24% โบรกฯให้ราคาแนะนำ 8.60 บาท

09 พ.ค. 2566 | 10:33 น.
อัปเดตล่าสุด :09 พ.ค. 2566 | 10:36 น.

"GABLE" ดำเนินธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิทัลครบวงจร เข้าเทรดวันแรกที่ 7.30 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 0.91 บาท (+14.24 %) จากราคา IPO ที่ 6.39 บาท โบรกฯ ให้ราคาแนะนำที่ 8.60 บาท

บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) "GABLE" ประกอบธุรกิจให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัลครบวงจร เข้าเทรดวันแรกที่ 7.30 บาท ราคาเพิ่มขึ้น 0.91 บาท (+14.24 %) จากราคา IPO ที่ 6.39 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก ประเมินราคาเหมาะสม GABLE ในปี 66 ที่ 8.60 บาท โดยประเมินด้วยวิธี Prospective PER ที่ระดับ 20.4x และคิดเป็น Price per Earning to Growth Ratio (PEG) ที่ระดับ 1.1x เท่ากับกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องการให้บริการโซลูชั่นระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ประกอบกับคาดกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 66 ราว 0.42 บาทต่อหุ้น

ภาพประกอบ ราคาหุ้น GABLE

ขณะที่ราคาล่าสุดเมื่อเวลา 10.23น. อยู่ที่ 6.95 บาท ปรับขึ้น 0.56 บาท (+8.76%) ราคาสูงสุดที่ 7.60 และราคาต่ำสุดที่ 6.75 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,175.84 ล้านบาท

GABLE ประกอบธุรกิจหลังแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

  1. โซลูชั่นระดับองค์กร
  2. โซลูชั่นที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและสร้างมูลค่าเพิ่ม
  3. บริการซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มที่พัฒนาโดยกลุ่มบริษัทเอง

วัตถุประสงค์ของการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

  • ลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่อง
  • ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน
  • ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

ด้านผลประกอบการช่วงปี 63-65 เติบโตเฉลี่ย 27% ต่อปี บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการช่วงปี 63-65 เท่ากับ 5,177 ลบ. 4,939 ลบ. และ 4,731 ลบ. ตามลำดับ หดตัวเฉลี่ย 4% ต่อปี โดยหลักมาจากรายได้กลุ่มธุรกิจโซลูชั่นที่เป็นตัวแทนจำหน่าย และสร้างมูลค่าเพิ่มที่ลดลง

โดยสัดส่วนยอดขายดังกล่าวลดลงจาก 36% ในปี 63 สู่ 22% ในปี 65 เนื่องจากยกเลิกการเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ของ Microsoft เนื่องจากมีมาร์จิ้นที่ต่ำ

อย่างไรก็ตามคาดผลประกอบการปี 66-67 เติบโตเฉลี่ย 18.4% ต่อปี พร้อมคาดรายได้จากการดำเนินงานช่วงปี 66-67 ราว 5,364 ลบ. และ 5,847 ลบ. ตามลำดับ หรือเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี

สอดคล้องกับทิศทางของมูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีเกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทในปี 66-67 ที่คาดจะเติบโตราว 11-13% ต่อปี ประกอบกับบริษัทมี Backlog ณ ปลายปี 65 ราว 4.1 พันลบ. ทยอยรับรู้ 1-2 ปีจากนี้ และยังมีรายได้ประจำซึ่งมีสัดส่วนราว 50% ของรายได้รวม