บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ได้รายงานผลประกอบการปี 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ ตลท. โดย นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ) หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน ของ TRUE แจ้งว่า TRUE มีผลดำเนินงานในปี 2565 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 18,285.19 ล้านบาท คิดเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่า 20% จากปี 2564 ขาดทุนสุทธิ จำนวน 1,428.40 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงาน TRUE สรุปมีดังนี้
กลุ่มทรูมีรายได้รวม 135,076 ล้านบาท และรายได้จากการให้บริการ 103,845 ล้านบาทซึ่งลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจซึ่งมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและการแข่งขันในตลาด แม้ฐานผู้ใช้บริการจะเติบโต ส่งผลให้EBITDA อ่อนตัวลงมาที่ 52,804 ล้านบาท ในขณะที่มาตรการด้านการควบคุมต้นทุนยังดำเนินอยู่อย่างเข้มงวด ท่ามกลางต้นทุนด้านพลังงานและสาธารณูปโภคที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมกิจการ
การขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ เป็นจำนวน 18,285 ล้านบาทในปี 2565 สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2564 จากค่าเสื่อมราคาโครงข่ายและค่าตัดจำหน่ายคลื่นความถี่ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสนับสนุนการขยายโครงข่ายและการให้บริการอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 1.2 พันล้านบาท และค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำประมาณ 8.5 พันล้านบาทในไตรมาส 4 อาทิการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อนหรือคาดว่าจะไม่ได้ใช้ในบริษัทใหม่ที่จะเกิดขึ้นภายหลังการควบรวมกิจการ การด้อยค่าของค่าความนิยม และผลกระทบจากการประเมินมูลค่าประจำปีของหน่วยลงทุน DIF
ไตรมาสแรกปิดดีลควบรวม
สำหรับการควบรวมกิจการกับ DTAC หรือ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มาหชน) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1 ปี 2566 เป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ TRUE เป็นบริษัทด้าน เทคโนโลยีที่สามารถเผชิญกับความท้าทายทั้งในประเทศและในตลาดโลก เพิ่มขีดความสามารถในการลงทุนสำหรับ การควบรวมกิจการครั้งนี้จะช่วยเร่งสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นอย่าง มีนัยสำคัญ ด้วยการนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้นและไปสู่ฐาน ลูกค้าที่ใหญ่กว่าเดิม อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานและทักษะของพนักงาน พร้อมข้อได้เปรียบ ด้านการประหยัดต่อขนาด รวมถึงการลดความซ้ำซ้อนและสามารถใช้โครงข่ายและสินทรัพย์ของบริษัทได้อย่างมี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับผู้บริโภคจะได้รับคุณภาพและประสบการณ์การใช้บริการที่ดียิ่งขึ้นและเป็นรูปแบบดิจิทัล มากขึ้น
นอกจากนี้ ตลท. ได้ขึ้นเครื่องหมาย SP ชื่อย่อหลักทรัพย์ - บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) DTAC , บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE ในวันที่ 20 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 02 มี.ค. 2566
เหตุผล คือ ตามที่ DTAC และ TRUE ได้ขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ (SP) ของบริษัททั้ง 2 แห่งเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 2566 รวมเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ เพื่อเตรียมการจัดสรรหุ้นสามัญของบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของDTAC และ TRUE และการดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการนำหุ้นสามัญของบริษัทใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (รายละเอียดปรากฏตามข่าวของ DTAC และ TRUE วันที่ 12 ม.ค. 2566) ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะสั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ DTAC และ TRUE เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ถึง 2 มี.ค. 2566