SABUY ควัก 640 ล้านบาท เข้าลงทุนใน 5 บริษัท ถือAS เพิ่มอีก 3.67%

20 ก.พ. 2566 | 13:39 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.พ. 2566 | 13:43 น.

SABUY ทุ่มงบ 640 ล้านบาท เข้าลงทุนใน 5 บริษัท วงเงินรวม 556 ล้านบาท โดย 273 ล้านเข้าลงทุนในหุ้นสามัญ บมจ.เอเซียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) เพิ่มอีก 3.67% และอีก 83.5 ล้านบาท เพิ่มทุนใน 3 บริษัทย่อย

 

วันที่ 20 ก.พ.66  บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 17 ก.พ.66  มีมติดังนี้

(1) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญ บมจ.เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น (AS) จำนวนไม่เกิน 18,614,000 หุ้น หรือคิดเป็น 3.67%ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียง ผ่านการซื้อขายในกระดานหลักซื้อขายหลักทรัพย์ (Main Board) ในวงเงินไม่เกิน 272,695,100 บาท คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะสิ้นสุดภายในเดือน เม.ย.66 ส่งผลให้ SABUY เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน AS จาก 21.23% เป็น 24.90% 
          
ทั้งนี้  AS เป็นผู้ให้บริการด้านความบันเทิงออนไลน์ ( Online Entertainment Service) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยเป็นผู้นำในการให้บริการเกมออนไลน์(Game Online Operator) อันดับหนึ่งในประเทศไทยและสิงคโปร์ และอันดับสองในมาเลเซีย และเวียดนาม ปัจจุบัน AS ให้บริการเกมออนไลน์รวม 33 เกม ในประเทศไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และอินโดนีเซีย
          
 

(2) คณะกรรมการบริษัทอนุมัติให้บริษัท หรือ บริษัท สบาย พอซ จำกัด (SBPOS) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท อินโฟแกรมเมอร์ จำกัด (IFGM) จำนวนไม่เกิน 12,500 หุ้น หรือคิดเป็น 20% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุนโดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 45,000,000 บาท ให้แก่ IFGM
          
สำหรับ IFGM ประกอบธุรกิจผู้พัฒนาและให้บริการระบบบริหารจัดการร้านอาหารอย่างมืออาชีพครอบคลุมการใช้งานธุรกิจร้านอาหารทุกขนาดตั้งแต่ร้านขนาดเล็ก ไปจนถึงการบริหารหลายสาขา และมีประสบการณ์ในด้านระบบ Point of Sale (POS) ซึ่งมีฟังก์ชั่นการใช้งานครอบคลุมครบครัน สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย
 
(3) ให้บริษัทฯ หรือ บริษัท สบาย อินฟราสตรัคเจอร์ จำกัด (SBINFR) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนในบริษัท นิภา เทคโนโลยี จำกัด (NIPA) จำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น และหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 110,525 หุ้น จากผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA ซึ่งคิดเป็นจำนวนรวม 10% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยจะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 200,000,000 บาท ให้แก่ NIPA และ กลุ่มครอบครัวจุลยา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ NIPA
          
 

ทั้งนี้ NIPA ประกอบธุรกิจผู้ให้บริการ ให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนา cloud infrastructure โดย NIPA เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cloud solutions ที่เป็น Open Source Platform ของ Cloud Service Providers จากทั่วโลกที่เลือกใช้งาน ซึ่งมีสัดส่วนการตลาดเป็นอันดับสอง รองจาก AWS และเป็นผู้ให้บริการ Cloud ไม่กี่รายในประเทศที่มีระบบให้บริการ เช่นเดียวกับ Global Cloud Provider

อย่างเช่น AWS Google Microsoft Huawei เป็นต้น ซึ่งผู้ใช้สามารถเข้าผ่าน https://nipa.cloud และสามารถเลือกบริการตามความต้องและชำระเงินผ่าน Payment Gateway ได้ทันที และมีราคาให้บริการเฉลี่ยถูกกว่า Global Cloud Provider ร้อยละ 30 – 60 ขึ้นอยู่กับบริการ โดยมีสำนักงานใหญ่และ Data Center ที่อาคารโทรคมนาคม ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการชุมสายอินเทอร์เน็ตของประเทศไทย มีโครงสร้างเหมาะสมรองรับกับระบบ Data Center นอกจากนี้ยังมี Data Center อีกสองแห่งที่พระราม 9 และ นนทบุรีเพื่อรองรับการขยายของธุรกิจ

อีกทั้ง ประกอบธุรกิจเอเจนซี่โฆษณาออนไลน์(Digital Marketing Agency) แบบครบวงจร ที่นำ innovation มาเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

(4) ให้บริษัทฯ หรือ บริษัท สบาย เอาท์ซอร์สซิ่ง จำกัด (SBOSC) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 20,000 หุ้น หรือคิดเป็น 80% ในบริษัท เอสทูสมาร์ท จำกัด ("S2Smart") จาก นาย ชัยชัชนนท์ ทรัพย์ประกอบ นายอมรเทพ โทรอุดมทรัพย์ และ นายนัทธ์ชนัน ฉ่ำแสง

ทั้งนี้ S2Smart ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาแรงงานในพื้นที่ภาคกลางเป็นหลัก โดยบริษัทจะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 18,354,400 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ S2Smart

(5) เข้าลงทุนในหุ้นสามัญเพิ่มทุนใน บริษัท สบาย มาสเตอร์ จำกัด (SBMST) จำนวนไม่เกิน 2,000,000 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 66.67% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 20,000,000 บาท ให้แก่ SBMST ทั้งนี้ SBMST เป็นบริษัทที่ทางบริษัทฯ ได้ร่วมจัดตั้งกับ บริษัท อินดีม อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด เพื่อประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคผ่านช่องทาง MLM

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทย่อย ดังนี้
         

  • 1.บริษัท สบาย อลิอันซ์ จำกัด (SBALL) จำนวน 18.5 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 1.5 ล้านบาท เป็นจำนวน 20 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 370,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 50 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
  • 2 การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท ไอซอฟเทล (ประเทศไทย) จำกัด (ISOFT) จำนวน 40 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 10 ล้านบาท เป็นจำนวน 50 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญจำนวน 400,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น
  • 3 การเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท สบาย มาสเตอร์ จำกัด (SBMST) จำนวน 25 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนปัจจุบัน 5 ล้านบาท เป็นจำนวน 30 ล้านบาท โดยการออกหุ้นใหม่เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 2,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น