BGRIM ปิดดีลซื้อกิจการ RES Company มุ่งเป้า Net-Zero

16 ก.พ. 2566 | 16:28 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.พ. 2566 | 16:37 น.

BGRIM ปิดดีลซื้อกิจการ RES Company เร่งขยายธุรกิจพลังงานทดแทน ในอิตาลี มุ่งสู่เป้าหมาย Net-Zero พร้อมแจ้งรายละเอียดการเข้าซื้อต่อตลาดหลักทรัพย์

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ได้ทำหนังสือรายงานต่อ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการเข้าซื้อหุ้น 100% ใน RES Company Sicilia S.r.l บริษัทประกอบธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานหมุนเวียนในประเทศอิตาลี โดยมีมูลค่าเงินลงทุนรวม 10,000 ยูโร (ประมาณ 372,000 บาท) เพื่อขยายธุรกิจพลังงานทดแทนในประเทศอิตาลี ตามเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ให้ได้ภายในปี ค.ศ.2050 (ปี พ.ศ. 2593) พร้อมเร่งศึกษาและดำเนินการเพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตรวม 100-200 เมกะวัตต์ ในประเทศอิตาลี ควบคู่การดำเนินการ เพื่อลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศอื่นๆ ในทวีปยุโรป อาทิ สเปน กรีซ โปแลนด์ เป็นต้น

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ ระบุว่า การเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้จะทำให้ BGRIM สามารถขยายการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศอิตาลีได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังตอบโจทย์การเดินหน้าขยายพอร์ต “พลังงานทดแทน” ของ บี.กริม เพาเวอร์ ตามวิสัยทัศน์ของบริษัทที่มุ่งสร้างพลังให้กับสังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) เพื่อสร้างคุณค่าให้กับสังคม เติบโตเคียงคู่ไปกับประเทศไทยและภูมิภาค

“บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงผลกระทบในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาด ซึ่งการเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศไทยและอีกหลากหลายประเทศ ร่วมลดภาวะโลกร้อน และดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน” นายฮาราลด์ กล่าว

อย่างไรก็ตามทางบริษัทตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจาก 3,338 เมกะวัตต์ ณ สิ้นปี 2565 เป็น 4,700 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ.2567 และเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ในปี พ.ศ.2573 ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ GreenLeap โดยมองหาการยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งใน และต่างประเทศ

ภาพประกอบ ราคาหุ้น BGRIM

ขณะที่ราคาหุ้น BGRIM ล่าสุดวันนี้ (16 ก.พ. 66) เมื่อเวลา 16.24น. อยู่ที่ราคา 40.50 บาท ลดลง 1.25 บาท (-2.99%) โดยราคาต่ำสุดที่ 40.50 บาท และราคาสูงสุดที่ 42.00 บาท มูลค่าการซื้อขาย 517 ล้านบาท