NTSC เปิดเทรดวันแรกล่าสุดราคาแตะ 39 บาท พุ่ง 48.57%

09 ก.พ. 2566 | 10:25 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ก.พ. 2566 | 11:04 น.

NTSC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก โดยมีราคาเปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.75 บาท หรือ 44.76% จากราคา IPO ที่ 26.25 บาทต่อหุ้น ราคาล่าสุด 10.18น. แตะ 39 บาท บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่งให้ราคาปีนี้ที่ 32.00-32.70 บาท/หุ้น

วันนี้ (9 ก.พ. 66) บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) หรือ NTSC เข้าจดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai เป็นวันแรก โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า NTSC เป็นหุ้นในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีราคาเปิดที่ 38.00 บาท เพิ่มขึ้น 11.75 บาท หรือ 44.76% จากราคา IPO ที่ 26.25 บาทต่อหุ้น

การเคลื่อนไหวของราคา NTSC ล่าสุดเมื่อเวลา 10.18น. ราคาปรับขึ้น 48.57% หรือบวก 12.75 บาท อยู่ที่ระดับ 39.00 บาท จากราคาไอพีโอ 26.25 บาทต่อหุ้น ราคาปรับสูงสุด 40.75 บาท และต่ำสุดที่ 36.00 บาท มูลค่าการซื้อขายกว่า 713.5 ล้านบาท

ภาพประกอบ ราคาการซื้อขาย NTSC

บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ 5 แห่ง ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ให้มูลค่าพื้นฐานของ NTSC ปี 2566 เฉลี่ยที่ 32.7 บาท/หุ้น

บล.โกลเบล็ก ให้ราคาเหมาะสม consensus หุ้น NTSC ที่ 32.00-32.70 บาท โดย NTSC เป็นผู้ประกอบธุรกิจนำเข้า ผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบ สารปรุงแต่ง วัตถุเจือปนอาหาร วัตถุแต่งกลิ่นรส สารเสริมอาหารและเครื่องปรุงต่าง ๆ ในอาหารคน เพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุดิบส่วนผสมในการปรุงอาหารของลูกค้า และมีบริษัทนิวโวเทค จำกัด เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้น 100% ประกอบธุรกิจนำเข้าผลิต และจำหน่ายวัตถุเจือปนสำหรับสัตว์

จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 25.0 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ratio ที่ประมาณ 29.80 เท่า คิดเทียบกับ P/E บริษัทที่ใกล้เคียงกัน ได้แก่ RBF 51.2x NRF 21.7x และ WINNER 12.0x

วัตถุประสงค์การระดมทุน

1.เพื่อชำระหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน

2. เพื่อใช้ลงทุนในโครงการในอนาคต

3.เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ทั้งนี้ NTSC มีรายได้ปี 62-64 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 อยู่ที่ 852 ล้านบาท 997 ล้านบาท 1,038 ล้านบาท และ 796 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 93 ล้านบาท 91 ล้านบาท 99 ล้านบาท และ 63 ล้านบาท ตามลำดับ รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมอาหาร โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่ใน IPO เป็นกลุ่มครอบครัว “เอกปัญญาสกุล” ถือหุ้นร้อยละ 75

อย่างไรก็ตามบริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและหลังหักเงินสำรองต่าง ๆ