ก.ล.ต. เชือด 14 ราย ปั่นหุ้น 5 บริษัท ปรับกว่า 27 ล้านบาท

08 ก.พ. 2566 | 18:05 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ก.พ. 2566 | 18:30 น.
813

ก.ล.ต. ลงโทษทางแพ่ง 14 ราย ปั่นหุ้น SCI, GSC, ASIAN, FLOYD, RP รวมค่าปรับกว่า 27 ล้านบาท พร้อมสั่งห้ามนั่งตำแหน่งกรรมการ และผู้บริหาร ในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า วันนี้(8ก.พ.) ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 รายกรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 5 บริษัท โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 27,398,667 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย

บุคคล 14 รายที่ก.ล.ต.ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง

  1. นายขจรเกียรติ อึ้งอร่าม 
  2. นางสาวพรทิพย์ เมธีเจริญวงศ์ 
  3. นางทัศนีย์ แย้มประดิษฐ
  4. นางสาวมุทิตา เอกะวิภาต
  5. นางสาวขณิษากาญจน์ โชคสหพิพัฒน์ (ชื่อเดิม นางสาววริศรา ชัยเจริญปัญญา)
  6. นายเมธาสิทธิ์ มั่นชาวนา
  7. นางสาวเมทินี สิทธิกรเมธากุล
  8. นางสาววริยา เข็มทองประดิษฐ์
  9. นายธนพล เข็มทองประดิษฐ์
  10. นางสาวอัจฉรา สุวิเดชโกศล
  11. นางสาวพจนา พิเศษโภค
  12. นายสิทธาปวีร์ ชวรางกูร
  13. นางสาวอชิรญา เกียรติทยากร(ชื่อเดิม นางสาวกัญปอร เกียรติทยากร)
  14. นางสาวเมวิกา ดีศรี

การดำเนินคดีทางแพ่งกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563 ผู้กระทำความผิด 14 ราย ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

  1.  กรณีการสร้างราคาหุ้นบริษัท เอสซีไอ อีเลคตริค จำกัด (มหาชน) (SCI) ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน 2562 ถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิด รวม 11 ราย โดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.32 บาท เป็น 1.71 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 12.35 ล้านหุ้น
  2. กรณีการสร้างราคาหุ้นหุ้นบริษัท โกลบอล เซอร์วิส เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (GSC) ในวันที่ 13 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย โดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 0.68 บาท เป็น 0.78 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.58 ล้านหุ้น เป็น 88.23 ล้านหุ้น
  3. กรณีหุ้นบริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ASIAN) ในวันที่ 16 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย โดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 4.10 บาท เป็น 4.36 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.54 ล้านหุ้น เป็น 24.70 ล้านหุ้น
  4. กรณีหุ้นนบริษัท ฟลอยด์ จำกัด (มหาชน) (FLOYD) ในวันที่ 20 ธันวาคม 2562 ผู้กระทำความผิดรวม 8 ราย โดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.37 บาท เป็น 1.41 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.99 ล้านหุ้น เป็น 25.85 ล้านหุ้น
  5. กรณีหุ้นบริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) (RP) ระหว่างวันที่ 23 – 24 มกราคม 2563 ผู้กระทำความผิดรวม 10 ราย โดยมีผลทำให้ราคาเพิ่มขึ้นจาก 1.41 บาท เป็น 1.48 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 0.13 ล้านหุ้น เป็น 4.43 ล้านหุ้น

 

ก.ล.ต.มีคำสั่งให้ผู้กระทำผิด 14 ราย ให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ดังนี้

  1. นายขจรเกียรติ อึ้งอร่าม จำนวน 3,429,167 บาท
  2. นางสาวพรทิพย์ เมธีเจริญวงศ์ จำนวน 2,739,565 บาท
  3. นางทัศนีย์ แย้มประดิษฐ จำนวน 1,700,080 บาท
  4. นางสาวมุทิตา เอกะวิภาต จำนวน 1,778,755 บาท
  5. นางสาวขณิษากาญจน์ โชคสหพิพัฒน์ จำนวน 580,072 บาท
  6. นายเมธาสิทธิ์ มั่นชาวนา จำนวน 2,066,636 บาท
  7. นางสาวเมทินี สิทธิกรเมธากุล จำนวน 2,163,004 บาท
  8. นางสาววริยา เข็มทองประดิษฐ์ จำนวน 2,215,734 บาท
  9. นายธนพล เข็มทองประดิษฐ์ จำนวน 2,785,950 บาท
  10. นางสาวอัจฉรา สุวิเดชโกศล จำนวน 1,551,370 บาท
  11. นางสาวพจนา พิเศษโภค จำนวน 563,597 บาท
  12. นายสิทธาปวีร์ ชวรางกูร จำนวน 2,633,573 บาท
  13. นางสาวอชิรญา เกียรติทยากร จำนวน 2,683,524 บาท
  14. นางสาวเมวิกา ดีศรี จำนวน 507,640 บาท

รวมวงเงินค่าปรับ 27,398,667 บาท

ทั้งนี้การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น SCI  GSC ASIAN  FLOYD และ RP ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5(2)(3)(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน 

พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง

โดยห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 11 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นางสาวมุทิตา นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 30 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 60 เดือน

นอกจากนี้ยังห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวขณิษากาญจน์ นางสาวพจนา และนางสาวเมวิกา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 28 เดือน

อย่างไรก็ตามการกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลักทรัพย์ และระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ