เปิด 20 โผหุ้นน่าสะสม รับความกังวลดอกเบี้ยเร่งขึ้น"ลดลง"

เงินทุนต่างชาติ ยังไหลเข้าตลาดการเงินไทยอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของตราสารหนี้ และตลาดหุ้นไทย โดยตั้งแต่ต้นปีซื้อสุทธิ 1.8 พันล้านเหรียญฯ และ 541 ล้านเหรียญฯ ตามลำดับ 

ฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส (ASPS )ระบุว่าหากพิจารณา 3 เดือนที่ผ่านมา ต่างชาติซื้อสุทธิตราสารหนี้ไทยสูงถึง 1.58 แสนล้านบาท(เป็นตราสารหนี้ระยะสั้นที่อายุ < 1 ปี 1.25 แสนล้านบาท) ทำให้ Bond Yield 2 ปี ปรับตัวลดลงแรงจาก 1.94% ลงมาเหลือ 1.56% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเมื่อ Bond Yield 2 ปี ปรับตัวลงสู่ระดับใกล้เคียงกับดอกเบี้ยนโยบาย นั้นหมายความว่า ความกังวลที่ดอกเบี้ยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมีโอกาสลดลง

ทำให้ฝ่ายวิจัย ฯ คาดว่าตลอดปี 2566 คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง. ) มีโอกาสสูงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพียง 1 ครั้ง จาก 1.25% สู่ระดับ 1.50% และช่วงไตรมาส1/66 อาจจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ย
 

โดยฝ่ายวิจัยฯแบ่งการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปี เป็น 3 กรณีผนวกกับใช้ Market Earning Yield Gap ระดับ 4.2%และอิง EPS66F ที่ระดับ 99.2 บาท/หุ้น จะได้ระดับ Target SET Index ณ สิ้นปี 2566 ที่ต่างกันออกไป ดังนี้

• Worst Case หรือ ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.75%(ขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ครั้งละ0.25%) ทำให้Target SET Index อยู่ที่ระดับ 1667 จุด
• Base Case หรือ ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.50% (ขึ้นดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง 0.25%) ทำให้Target SET Index อยู่ที่ระดับ 1740 จุด
• Best Case หรือ ดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.25%(ไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยในปีนี้) ทำให้Target SET Index อยู่ที่ระดับ 1820 จุด

20 โผหุ้น แนะ "ซื้อ " 

9 หุ้น TOP PICK

บล.เอเซียพลัส ระบอีกว่า มองจากเป้าดัชนี SET ยังมี Upside พอสมควร ฝ่ายวิจัยฯ จึงทำให้คัดกรองหุ้นเด่นที่คาดราคาหุ้นจะ Outperform ในช่วงที่เหลือของปี โดยมีเงื่อนไขการคัดกรอง EPS Growth 66F > 25%YoY  ชื่นชอบ ERW RS MAJOR GULF STEC SCGP SCG CBG และ BEC