สนง.สลากฯ บุกค้น “กองสลากพลัส” เล็งตัดสิทธิผู้ค้าขายส่ง

16 ม.ค. 2566 | 18:50 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ม.ค. 2566 | 01:50 น.

สนง.สลากฯ ผนึกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บุกค้น “กองสลากพลัส” สอบที่มาลอตเตอรี่ 11 ล้านใบ เล็งตัดสิทธิผู้ค้าโควตาขายส่งสลากผิดเงื่อนไข แก้ปัญหาหวยเกินราคา ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแพลตฟอร์ม

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า คณะทำงานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าการตรวจค้นตรวจค้น บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด (กองสลากพลัส) เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและพิสูจน์ทราบการกระทำความผิดฯ

 

เนื่องจากได้รับร้องเรียนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่มาแจ้งความกับตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ว่าพบกองสลากพลัส มีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคาและมีจำนวนสลากมาก คาดว่าเกิดจากการกว้านซื้อ เข้าข่ายหลอกลวงประชาชน 

 

ซึ่งทางสำนักงานกินแบ่งรัฐบาลยืนยันว่ากองสลากพลัสไม่ได้รับสิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงมีการขอหมายค้นเข้าตรวจสอบในวันนี้

พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า การดำเนินการกับแพลตฟอร์มเอกชนที่จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาที่กำหนด ไม่ว่าจะรวมค่าบริการเพิ่มเติมหรือไม่ก็ตาม สำนักงานสลากฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ สำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์ในความผิดฐานขายสลากเกินราคา

ทั้งนี้ ปัจจุบันศาลมีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายฯ (ปิดเว็บไซต์)  ไปแล้ว 12 แพลตฟอร์ม กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการอุทธรณ์ โดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 2 แพลตฟอร์ม และอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาล จำนวน 1 ราย

ขณะเดียวกันสำนักงานสลากฯ ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และขอยืนยันว่า สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้นกับกองสลากพลัส ไม่เคยให้สิทธิ์ในการจำหน่ายสลาก และการขายสลากของแพลตฟอร์มดังกล่าว ก็ไม่สามารถควบคุมผู้ซื้อที่อายุต่ำกว่า 20 ปีได้ 

สำหรับการตรวจค้นในครั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะร่วมเข้าไปตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 11 ล้านใบว่าเป็นสลากของจริงหรือไม่ หากพบว่าเป็นสลากจริงก็จะตรวจสอบเพิ่มว่ามีที่มาจากแหล่งใด เพื่อดำเนินการยกเลิกสัญญา หรือสิทธิการเป็นผู้ซื้อจอง-ล่วงหน้าฯ  เนื่องจากเป็นการกระทำที่ไม่เป็นไปตามสัญญาและหลักเกณฑ์ในการรับสลากไปจำหน่าย 

ทั้งนี้ สัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ผู้ขายจะต้องไม่ขายสลากเกินราคาที่กำหนดไว้ในสลาก ไม่ว่าจะเป็นการขายโดยเรียกร้องให้ผู้ซื้อ ซื้อสิ่งของอื่นรวมอยู่ด้วยหรือไม่ และรวมทั้งการร้องขอประโยชน์ในลักษณะอื่นใด ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามให้ถือว่าผิดสัญญา

รวมทั้งนำสลากของตนไปขายให้แก่ผู้อื่นเพื่อนำไปรวมชุด หรือแลกเปลี่ยนสลากกับผู้อื่น หรือหากตรวจพบว่า สลากของผู้ขายไปวางไว้เพื่อเตรียมจำหน่ายที่จุดจำหน่ายของผู้อื่นนอกเหนือจากจุดที่ได้ระบุไว้ ให้สันนิษฐานว่าไม่ได้ขายสลากด้วยตนเอง และถือว่าเป็นการผิดสัญญาซึ่งสำนักงานสลากฯ มีสิทธิบอกเลิกสัญญา หรือยกเลิกสิทธิการเป็นผู้ลงทะเบียนซื้อ-จองล่วงหน้าได้ทันที

รวมถึงสลากในส่วนของสมาคม/องค์กร  สำนักงานสลากฯ จะยกเลิกสิทธิในการรับสลากไปจำหน่ายของสมาชิกในสมาคม/องค์กรนั้นๆ ทันทีเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม การตรวจค้นการจำหน่ายสลากครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อต้องการแก้ปัญหาสลากเกินราคาและการจำหน่ายสลากแบบผิดกฎหมายอย่างจริงจัง ไม่ได้มีเจตนาจะเข้าไปตัดสิทธิตัวแทนจำหน่าย แต่การตัดสิทธิเป็นผลที่จะต้องดำเนินการเมื่อพบความผิดตามมา เพราะหากไม่ดำเนินการตัดสิทธิ จะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้

สำหรับกรณีการโฆษณาทางสื่อต่างๆ ซึ่งรัฐบาลเคยมีมติ ครม. เมื่อปี พ.ศ. 2551 ที่ห้ามโฆษณาจูงใจให้ประชาชนเนื่องจากไม่ต้องการส่งเสริมการพนัน แต่ปรากฏว่ายังมีการโฆษณาของกองสลากพลัส โดยทางสำนักงานสลากฯ ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่ควบคุมดังกล่าวแล้ว