ผ่าอาณาจักร "บางจาก" หลังเทก"เอสโซ่"กวาดปั้มทั่วไทยกว่า 2 พันแห่ง

12 ม.ค. 2566 | 13:56 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ม.ค. 2566 | 21:24 น.
1.2 k

ผ่าอาณาจักร "บางจาก" หลังเข้าซื้อหุ้น "เอสโซ่" สัดส่วน 65.99% จาก ExxonMobil ผนึกสถานีน้ำมันค้าปลีกทั่วไทยกว่า 2 พันแห่ง ดีลซื้อขายคาดเสร็จปีนี้

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ดำเนินธุรกิจหลักด้วยการประกอบธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ตั้งแต่การจัดหาน้ำมันดิบทั้งจากแหล่งต่างประเทศและภายในประเทศ เข้ากลั่นเป็นน้ำมันสำเร็จรูปที่ได้มาตรฐาน 

 

รวมถึงได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจการค้าน้ำมัน ธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาธุรกิจใหม่ 

 

ล่าสุด "บางจาก" ประกาศซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (เอสโซ่) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (ExxonMobil) 

 

โดยเบื้องต้นเป็นการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 65.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของ เอสโซ่จาก ExxonMobil โดยมีมูลค่ากิจการ 55,500 ล้านบาท และมีกลไกการปรับราคาซื้อขายหุ้นตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายหุ้น 

อย่างไรก็ดี หากอ้างอิงตามงบการเงินสอบทานในไตรมาส 3/2565 ของเอสโซ่ จะได้ราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น (คาดใช้เงินเบื้องต้นราว 20,188 ล้านบาท จากสัดส่วนหุ้น 65.99% ที่ถือโดย ExxonMobil) โดยราคาสุดท้ายจะมีการปรับตามเงื่อนไขที่ตกลงไว้ 

 

และเตรียมพร้อมทำคำเสนอซื้อหุ้นที่เหลือทั้งหมด (tender offer) ของเอสโซ่ หลังจากการทำธุรกรรมกับ ExxonMobil เสร็จสิ้น


"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมข้อมูลงบการเงิน "บางจาก" หรือ BCP  ณ สิ้นสุด 30 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา พบว่าบริษัทฯ มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 33,288 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 1.73 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 2.46 เท่า ปัจจุบันโรงกลั่นบางจากมีกำลังกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 120,000 บาร์เรลต่อวัน และมีจำนวนสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 1,340 แห่ง และมีแผนเพิ่มอีก 80 แห่ง เป็น 1,420 แห่ง ภายในสิ้นปี 2566
         

ส่วนงบการเงิน ESSO มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 842.84 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) อยู่ที่ 2.33 เท่า อัตราส่วนสภาพคล่อง (Current Ratio) อยู่ที่ 1.08 เท่า ปัจจุบันโรงกลั่นเอสโซ่ (ตั้งอยู่ที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี) และมีกำลังการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 130,000 บาร์เรลต่อวัน มีสถานีบริการน้ำมันอยู่ที่ 800 แห่งทั่วประเทศ

โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปของ BCP ณ วันที่ 11 ม.ค. 2566 มีขนาดประมาณ  43,700 ล้านบาท ขณะที่ ESSO มีมาร์เก็ตแคปที่ขนาด 38,400  ล้านบาท
          

และหากการควบรวมกิจการเกิดขึ้น BCP จะมีส่วนแบ่งตลาดจำหน่ายน้ำมัน (มาร์เก็ตแชร์) เพิ่มขึ้นเป็น 25% แบ่งเป็นของบางจากเดิม 15% และเอสโซ่ที่ 10% รองจาก บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR ที่มีมาร์เก็ตแชร์ที่ 35% สถานีบริการน้ำมันบางจากจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 พันแห่ง แบ่งเป็น บางจาก 1,420 แห่งตามแผนในปี 66  และเอสโซ่อีก 800 แห่ง