ดาวโจนส์ปิดบวก 183 จุด ข้อมูลแรงงานหนุนคาดเฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย

09 ธ.ค. 2565 | 06:33 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ธ.ค. 2565 | 13:42 น.

ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกวันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.) แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมองว่า การเพิ่มขึ้นของตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานในสหรัฐเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดจะชะลอปรับขึ้นดบ.

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,781.48 จุด เพิ่มขึ้น 183.56 จุด หรือ +0.55%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,963.51 จุด เพิ่มขึ้น 29.59 จุด หรือ +0.75% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,082.00 จุด เพิ่มขึ้น 123.45 จุด หรือ + 1.13%
         

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 4,000 ราย สู่ระดับ 230,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 230,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.
         

ส่วนจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 62,000 ราย สู่ระดับ 1.67 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน

 

ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัทแอลพีแอล ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาด โดยนักลงทุนมองว่าการเพิ่มขึ้นของตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง ซึ่งถือเป็นเป้าหมายหลักของเฟด และอาจเป็นแรงหนุนให้เฟดผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
         

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 1.6% โดยหุ้นแอปเปิ้ล ปรับตัวขึ้น 1.21% หุ้นแอมะซอน พุ่งขึ้น 2.14% หุ้นอินวิเดีย ทะยานขึ้น 6.51% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ เพิ่มขึ้น 1.23%
         

หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 1.24% แม้ได้รับแรงกดดันในช่วงแรกจากรายงานข่าวที่ว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขัดขวางข้อตกลงที่ไมโครซอฟท์เข้าซื้อกิจการบริษัทแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard) ซึ่งเป็นผู้ผลิตวิดีโอเกมรายใหญ่ของสหรัฐ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการกีดกันคู่แข่งในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม

 

ตลาดจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 13-14 ธ.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีนี้ รวมทั้งถ้อยแถลงของนายพาวเวล ซึ่งจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566
         

นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 4.25-4.50% ในการประชุมรอบนี้ หลังจากปรับขึ้น 0.75% เป็นจำนวน 4 ครั้งติดต่อกัน ขณะที่นายพาวเวลส่งสัญญาณว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.