ความคืบหน้าปัญหาการซื้อขายหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด(มหาชน) หรือ "หุ้น MORE" หลังจากเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 มีการตั้งคำสั่งซื้อ(ATO) ที่ราคา 2.90 บาท มีปริมาณการซื้อขายที่ 1,531.77 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 4,442.13 ล้านบาท ก่อนจะถูกถล่มติดฟลอร์สนิทตั้งแต่เวลาประมาณ 11.30 น. และต่อเนื่องถึงเช้าวันศุกร์ที่ติดฟลอร์ตั้งแต่เปิดการซื้อขายที่ราคา 1.37 บาท
ล่าสุดนายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และ นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จะร่วมกันแถลงข่าว "แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีหุ้น บมจ. มอร์ รีเทิร์น (MORE) ในวันจันทร์ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 9:00 น. ที่ห้องประชุมเสรี จินตนเสรี ชั้น 7 อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ
แหล่งข่าวจากตลท. เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญที่จะแถลงคือ จะมีการขึ้นเครื่องหมาย "SP" ห้ามซื้อขายหุ้น MORE เป็นการชั่วคราว
หลักเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมาย "SP"
ปปง.ลุยสอบปมซื้อขายหุ้น MORE
หลังมีข่าวว่าการซื้อขายหุ้น MORE เปลี่ยนแปลงไปอย่างผิดปกติ ส่งผลที่สร้างความเสียหายให้นักลงทุนและโบรกเกอร์มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบว่ามีการทำธุรกรรมที่ผิดปกติจริงหรือไม่
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยภายหลังการหารือว่า จากการร่วมรับฟังการหารือในที่ประชุม บริษัทโบรกเกอร์ ยืนยันว่า เมื่อวัน 10 พ.ย. 2565 มีธุรกรรมที่ผิดปกติ จึงขอทำการตรวจสอบธุรกรรมที่เกี่ยวกับหุ้น MORE ซึ่งในรายละเอียดการตรวจจะต้องให้แต่ละบริษัทไปดำเนินการก่อน
ปปง.ได้ให้หลักการไปว่าลูกค้าที่บริสุทธิ์ ไม่มีธุรกรรมที่ผิดปกติ ก็จะต้องดูแล เพราะมีการซื้อขายหุ้นจำนวนมากทั้งรายใหญ่และรายย่อย อาจจะมีผลกระทบโดยรวมในตลาดหลักทรัพย์ได้จึงต้องพยายามระมัดระวังและดูแลลูกค้าก่อน ส่วนความเสียหายค่อยเอาไว้ทีหลัง และวันนี้เงินที่จะต้องจ่ายให้ผู้ขาย ทุกบริษัทได้เตรียมเงินมาจ่ายให้ตามปกติไม่ได้มีการผิดพลาด
อย่างไรก็ตามในขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นดำเนินคดี เพราะยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหลังจากพบธุรกรรมที่ผิดปกติ ก็จะต้องตรวจสอบก่อนว่าผิดปกติจริงหรือไม่ และวันนี้เป็นการมารวบรวมข้อมูลของโบรกเกอร์ต่างๆและแยกย้ายกันไปตรวจสอบลูกค้าของตัวเอง แล้วจะนำข้อมูลที่ตรวจสอบแล้วกลับมาหารือกันอีกครั้งว่า มีความผิดปกติหรือไม่อย่างไร
หากผิดปกติ มีจำนวนเงินเท่าไรและไปมีความเกี่ยวพันกับใครบ้าง จึงต้องให้เวลาในการไปตรวจสอบก่อน เพราะเหตุเพิ่งเกิดขึ้น และการซื้อขายหุ้นก็เป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ธรรมดา หากจะไปบอกว่าผิดปกติโดยไม่มีข้อมูลสนับสนุนไม่สามารถทำได้
อย่างไรก็ตามจะต้องรอดูวันจันทร์ที่ 14 พ.ย. 2565 อีกครั้ง ว่าผลการกลับไปตรวจสอบของแต่ละบริษัทนั้นจะพบความผิดปกติอย่างไรบ้าง และมีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมบ้าง แล้วนำข้อมูลกลับมาวิเคราะห์ ซึ่งก็จะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
หากพบว่ามีความผิดก็จะต้องดำเนินคดี แต่หากมีความเกี่ยวพันกับลูกค้าบริษัทโบรกเกอร์ก็จะต้องดูแลลูกค้าเป็นลำดับแรกก่อน หากมีการซื้อขายที่ถูกต้องเพื่อให้เกิดความมั่นใจทุกคนก็พร้อมที่จะจ่ายเงิน
ในส่วนขั้นตอนของ ปปง.หลังจากนี้ก็จะรับข้อมูลมาเพื่อตรวจสอบเพิ่มเติม หากมีรายชื่อบุคคลต้องสงสัย ปปง.ก็จะต้องเข้าไปตรวจสอบธุรกรรมเพิ่มเติมว่าบุคคลต้องสงสัยดังกล่าว มีการทำธุรกรรมที่สำแดงและไม่สำแดงหรือไม่ มีหลบการดำเนินการที่ปิดบังอะไรหรือไม่
ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าไฮโซดังแก๊งค์ซุปเปอร์คาร์ เทหุ้นMORE ผ่าน NVDR ทำให้หุ้นดิ่งนั้น ขณะนี้ทาง ปปง.ยังไม่มีข้อมูล ซึ่งปปง.จะต้องรอข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อน แล้วจึงจะนำข้อมูลมาสังเคราะห์อีกครั้ง