เงินปอนด์พุ่ง! ขานรับ "ริชี ซูนัค" รับตำแหน่งผู้นำอังกฤษคนใหม่

26 ต.ค. 2565 | 08:23 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ต.ค. 2565 | 15:27 น.

เงินปอนด์ของอังกฤษแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันอังคาร (25 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการแต่งตั้งนายริชี ซูนัค อดีตรัฐมนตรีคลัง เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ

 

เงินปอนด์แข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐวานนี้ (25 ต.ค.) ที่ระดับ 1.1472 ดอลลาร์ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ  0.9961 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9878 ดอลลาร์ ขานรับข่าว การรับตำแหน่ง อย่างเป็นทางการของ นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ 

 

ขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.9% แตะที่ระดับ 110.9500

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 147.98 เยน จากระดับ 148.81 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9958 ฟรังก์ จากระดับ 1.0009 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3621 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3711 ดอลลาร์แคนาดา

 

การที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่า ด้วยประสบการณ์ของนายริชี ซูนัค ซึ่งเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังของอังกฤษ (ดำรงตำแหน่งในรัฐบาลบอริส จอห์นสัน ระหว่างวันที่ 13 ก.พ. 2563 ถึง 5 ก.ค. 2565 ) และอดีตนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ (ระหว่างปี 2544 – 2547) หลังสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา และเงินเฟ้อที่พุ่งสูงของอังกฤษในขณะนี้

เมื่อครั้งเป็นรมว.คลังในรัฐบาลนายบอริส จอห์นสัน "ริชี ซูนัค" เคยกล่าวว่าไม่เคยใฝ่ฝันจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่่ตอนนี้เขาดำรงตำแหน่งนั้นแล้ว

นายโนเอล ควินน์ ซีอีโอของธนาคารเอชเอสบีซี (HSBC) ให้ความเห็นว่า การที่นายริชี ซูนัค ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ จะช่วยให้ตลาดมีเสถียรภาพมากขึ้นหลังจากเผชิญความวุ่นวายมาระยะหนึ่ง

 

ในวันแถลงข่าวรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการวานนี้ (25 ต.ค.) นายซูนัค นายกฯคนใหม่ให้คำมั่นว่า เขาจะให้ประเด็นการรักษาเสถียรภาพและความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเป็น “หัวใจ” ในวาระการทำงานของรัฐบาล ซึ่งหมายความว่า รัฐบาลอาจจะต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากตามมา แต่เขาจะ “ปกป้องประชาชนและภาคธุรกิจ” เหมือนกับที่ได้เคยดำเนินการในช่วงเกิดโควิด-19 จนประสบความสำเร็จมาแล้ว

 

ซูนัคยอมรับว่า อังกฤษกำลังเผชิญปัญหาท้าทายมากมาย และเขาพร้อมที่จะแก้ไขปัญหาความผิดพลาดที่เกิดจากนโยบายของนางลิซ ทรัสส์ อดีตนายกรัฐมนตรี

 

"ประเทศของเรากำลังเผชิญปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ ขณะที่ผลกระทบจากโควิด-19 ยังคงมีอยู่ และการที่รัสเซียทำสงครามในยูเครนก็ได้ทำให้เกิดความไร้เสถียรภาพในตลาดพลังงานและห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก"

 

นอกจากข่าวดีซึ่งเป็น “ความหวัง” จากการมีผู้นำคนใหม่ของอังกฤษแล้ว ในช่วงสัปดาห์นี้ นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ (27 ต.ค.) ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน

 

นอกจากนั้น นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย โดยในวันพุธ (26 ต.ค.) จะมีการเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ย. ส่วนในวันพฤหัสบดี (28 ต.ค.) จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2565 (ประมาณการเบื้องต้น) และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. สำหรับวันศุกร์ (29 ต.ค.) จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนก.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน