ใช้สิทธิวันแรก สะพัด 631 ล้าน “คนละครึ่ง5 – บัตรสวัสดิการ5 – กลุ่มเปราะบาง3”

01 ก.ย. 2565 | 16:12 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2565 | 23:16 น.
604

คลัง เผยยอดใช้สิทธิในมาตรการรักษาระดับการบริโภค “คนละครึ่ง5 – บัตรสวัสดิการ5 – กลุ่มเปราะบาง3” วันแรก มีเงินสะพัดรวมแล้วกว่า 631 ล้านบาท พร้อมเตือน ขอให้ผู้มีสิทธิทุกรายใช้สิทธิครั้งแรกภายใน 14 ก.ย.65 เวลา 22.59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ซึ่งประกอบด้วย โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 และโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5

 

ได้เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายวันนี้ (วันพฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2565) เป็นวันแรก ซึ่งในวันแรกของการใช้จ่าย ณ เวลา 12.00 น. มีผู้ใช้สิทธิทุกโครงการรวม 3.13 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 631.58 ล้านบาท โดยสรุปผลการใช้จ่ายได้ ดังนี้

1. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 2.03 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 404.50 ล้านบาท

 

2. โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 91,592 คน และมียอดใช้จ่ายรวม 18.08 ล้านบาท

 

3. โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 1.01 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 209 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 105.31 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 103.69 ล้านบาท

ทั้งนี้ สำหรับการใช้จ่ายในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 นั้น นอกจากผู้มีสิทธิจะสามารถใช้สิทธิซื้อสินค้าและบริการกับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 และผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะแล้ว

 

ยังสามารถใช้สิทธิผ่านการสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการอีกด้วย โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการจำนวน 5 ราย ได้แก่ ได้แก่ ช้อปปี้ฟู้ด ไลน์แมน แกร็บฟู้ด ฟู้ดแพนด้า และทรูฟู้ด

 

อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงการคลังย้ำว่า การใช้จ่ายภายใต้โครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 จะต้องเป็นการซื้อขายสินค้าและบริการที่ผู้ซื้อและผู้ขายมีการทำธุรกรรมซื้อขายและสแกน QR Code เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการแบบพบหน้า (Face-to-face) โดยไม่มีการดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์หรือผ่านคนกลาง เว้นแต่การใช้สิทธิผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมโครงการเท่านั้น

 

โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวเพิ่มเติมว่า ประชาชนผู้ได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 จะได้รับวงเงินสนับสนุนค่าอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าทั่วไป บริการนวด สปา ทำผม ทำเล็บ และบริการขนส่งสาธารณะ และสินค้าหรือบริการที่กระทรวงการคลังกำหนด ในอัตราร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน และไม่เกิน 800 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ

 

โดยผู้มีสิทธิทุกรายจะต้องใช้สิทธิครั้งแรกภายในวันพุธที่ 14 กันยายน 2565 เวลา 22.59 น. มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ อย่างไรก็ดี เมื่อใช้จ่ายครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว จะสามารถทยอยใช้จ่ายได้จนถึงวันจันทร์ที่ 31 ตุลาคม 2565

 

ดังนั้น จึงขอเชิญชวนประชาชนรายเดิมที่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 4 ที่ยังไม่ได้กดยืนยันสิทธิอีกประมาณ 7 ล้านราย เร่งกดยืนยันสิทธิและเร่งใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะถูกตัดสิทธิ