เงินเยนอ่อนยวบ ต่ำสุดรอบ 24 ปี สวนทางดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
ค่าเงินเยนร่วงลงเกือบ 4% แล้วในเดือนสิงหาคมนี้ และเคลื่อนไหวที่ระดับ 138.50 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐช่วงเช้าวันอังคาร (30 ส.ค.) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี คาด BOJ อาจเข้าแทรกแซงตลาดในเร็วๆนี้ ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี เป็นผลจากนโยบายของเฟด
30 ส.ค. 2565 ค่าเงินเยน ทรุดตัวลงใกล้แตะระดับทางจิตวิทยาที่ 140 เยนต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้านี้ ส่งผลให้มีกระแสคาดการณ์ว่า ทางการญี่ปุ่นอาจจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุง ค่าเงินเยน ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ (29 ส.ค.) เงินดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ทศวรรษ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวันนี้ (30 ส.ค.) ว่า หากเงินเยนทรุดตัวลงแตะระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 24 ปี ก็อาจทำให้กระทรวงการคลังญี่ปุ่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และสำนักงานบริการด้านการเงินของญี่ปุ่น (FCA) จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อใช้มาตรการแทรกแซงตลาด เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เงินเยนร่วงลงเกือบ 4% แล้วในเดือนสิงหาคมนี้ และเคลื่อนไหวที่ระดับ 138.50 เยนต่อดอลลาร์ในช่วงเช้าวันอังคาร (30 ส.ค.) เนื่องจากเทรดเดอร์เริ่มหันมาจับตาส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กยังรายงานอ้างอิงนายเดวิด หลู ผู้อำนวยการบริษัทเอ็นบีซี ไฟแนนเชียล มาร์เก็ตส์ เอเชีย ที่ให้ความเห็นว่า มีความเป็นไปได้ว่าทางการญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อเงินเยนดิ่งลงใกล้ระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ แต่เขาเชื่อว่าการแทรกแซงดังกล่าวอาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากนักในเวลานี้ เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมาก
นายพาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ (26 ส.ค.) ว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคงคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำแม้ว่าต้องแลกกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงและผลกระทบที่จะมีต่อตลาดแรงงานของสหรัฐ
"เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจะไม่ตัดทางเลือกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติในการประชุมเดือนกันยายนที่จะถึงนี้" ประธานเฟดกล่าว
ดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (29 ส.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบสองทศวรรษ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ พบว่า ในการซื้อขายดอลลาร์ช่วงแรกในสหภาพยุโรป (อียู) เงินยูโรอ่อนค่าลง 2.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ที่ระดับ 0.99415 ขณะที่ค่าเงินปอนด์ของอังกฤษร่วงลงต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง
ส่วนสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ก็อ่อนค่าลงเช่นกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันจันทร์ โดย FactSet ระบุว่า ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 1% เมื่อเทียบกับเงินวอน ที่ระดับ 1,349.6 วอน ซึ่งเป็นการแข็งค่ามากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552
นอกจากนี้ ยังพบว่า ดอลลาร์สหรัฐ...
- แข็งค่าขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 138.53 เยน
- แข็งค่า 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สิงคโปร์ ที่ระดับ 1.3988 ดอลลาร์สิงคโปร์
- และ แข็งค่าขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ออสเตรเลีย ที่ระดับ 0.6863 ดอลลาร์ออสเตรเลีย