ดาวโจนส์ปิดลบ 129.44 จุด วิตกเศรษฐกิจสหรัฐถดถอย

06 ก.ค. 2565 | 06:43 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2565 | 13:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (5 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ ขณะที่ดัชนี S&P500 และดัชนี Nasdaq ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นในช่วงท้ายตลาด ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 30,967.82 จุด ลดลง 129.44 จุด หรือ -0.42%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,831.39 จุด เพิ่มขึ้น 6.06 จุด หรือ +0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,322.24 จุด เพิ่มขึ้น 194.39 จุด หรือ +1.75%
         

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตาเปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 2.1% ในไตรมาส 2 จากเดิมที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มหดตัว 1.0%
         

ตัวเลขคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวในไตรมาส 2 รุนแรงกว่าไตรมาส 1 ซึ่งหดตัว 1.6% และแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจหดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทั้งนี้ เฟดสาขาแอตแลนตาจะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 7 ก.ค.
         


 

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงอย่างหนัก หลังจากราคาน้ำมัน WTI ทรุดตัวลงกว่า 8% หลุดจากระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 3.13% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 8.08% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ร่วงลง 6.93% หุ้นเชฟรอน ลดลง 2.63%

 

หุ้นกลุ่มที่ต้องพึ่งพาการขยายตัวของเศรษฐกิจร่วงลง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและกลุ่มวัสดุ โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 6.55% หุ้นยูเอส สตีล คอร์ป ร่วงลง 4.97% หุ้นโบอิ้ง ร่วงลง 1.59% หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก (จีอี) ดิ่งลง 2.35% หุ้นฮันนีเวลล์ ร่วงลง 1.72% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 2.41%
         

โมฮัมหมัด เอล-เอเรียน นักวิเคราะห์จากบริษัทอัลลิอันซ์กล่าวว่า ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปีปรับตัวสูงกว่าอายุ 10 ปี ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าการหดตัวของเศรษฐกิจอาจจะผลักดันให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ทั้งนี้ การคาดการณ์ดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและการสื่อสาร โดยหุ้นเมตา แพลทฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 5.1% หุ้นทวิตเตอร์ บวก 0.39% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.89% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.3% หุ้นอัลฟาเบท ทะยานขึ้น 4.16% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.16 % หุ้นแอมะซอน พุงขึ้น 3.6%
         

การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีช่วยหนุนหุ้น Ark Innovation ETF ทะยานขึ้นกว่า 9% โดย Ark Innovation ETF เป็นกองทุนที่บริหารโดยนางเคธี วูด และมุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
 

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 14-15 มิ.ย. ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้
         

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 250,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ต่ำกว่าระดับ 390,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานเดือนมิ.ย.จะทรงตัวที่ระดับ 3.6%
         

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากสื่อรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน อาจจะประกาศยกเลิกการจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางส่วนจากจีนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งหากมีการบังคับใช้ ถือเป็นย่างก้าวสำคัญในการคลี่คลายความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนได้จัดการประชุมหลายครั้งร่วมกับคณะที่ปรึกษาเศรษฐกิจ เพื่อหารือเกี่ยวกับทางเลือกในการตัดสินใจที่จะยกเลิกมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนซึ่งอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้ริเริ่ม