ผลิต-ไฟฟ้าลาว พร้อมขายหุ้นกู้ 1,085.5 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย6.50%

21 มิ.ย. 2565 | 18:55 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2565 | 06:25 น.
1.2 k

‘ผลิต-ไฟฟ้าลาว’ หรือ EDL-Gen คาดดีเดย์เริ่มจำหน่ายไฟฟ้าให้เวียดนามล็อตแรก 104 เมกะวัตต์ พร้อมขายหุ้นกู้วงเงิน 1,085.5 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย 6.50% ให้จองซื้อ 5-7 ก.ค.นี้

นายวันแสง วันนะวง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน) หรือ EDL-Gen  ผู้นำการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ของ สปป.ลาวเปิดเผยว่า บริษัทฯให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการด้านเงินลงทุนและต้นทุนทางการเงิน เพื่อเสริมสร้างสถานะทางการเงินให้เข้มแข็ง ควบคุมอัตราส่วนทางการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ดังนั้น EDL-Gen จึงได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์( ก.ล.ต.)

นายวันแสง วันนะวง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน)

เพื่อเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันและมีผู้แทนผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 วงเงิน 1,085.5 ล้านบาท จำนวน 1 ชุด อายุ 4 ปี 6 เดือน กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.50% ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 ซึ่งกำหนดชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน เพื่อนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ไปรีไฟแนนซ์หุ้นกู้ชุดเดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2565 โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้ที่ระดับ BBB- แนวโน้ม “คงที่” (Stable)

หุ้นกู้ชุดดังกล่าว จะเสนอขายให้แก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองขั้นต่ำ 100 หน่วย โดยกำหนดให้นักลงทุนสามารถจองซื้อได้ในวันที่ 5-7 กรกฎาคม 2565นี้ ผู้ที่สนใจสามารถจองซื้อหุ้นกู้ผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ จำนวนทั้งหมด 4 ราย ประกอบไปด้วย

  • บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด
  • บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
  • บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์ เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด

 

ส่วนภาพรวมการดำเนินงานของ EDL-Gen ในปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังไตรมาสแรกในปีนี้สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้า (ในรูปแบบสกุลเงินกีบ ดอลล่าร์สหรัฐและเงินบาท) รวมทั้งสิ้น 1,072.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 66.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (อัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิงจาก Bloomberg เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565)

โดยได้รับอานิสงส์อย่างต่อเนื่องจากปรากฎการณ์ลานิญญ่าตั้งแต่ปี 2564 ทำให้ปริมาณน้ำฝนและมวลน้ำไหลผ่านเขื่อน (in flow) ใน 5 เดือนแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็น 5,306.80 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงกว่าที่คาดการณ์ถึง 202.70% และเทียบกับ 5 เดือนแรกของปี 2564 เท่ากับ 166.44%  ทำให้มีความสามารถด้านการผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น

 

รวมถึงการรับรู้ของส่วนแบ่งกำไรจากการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าที่ร่วมทุนกับเอกชน (IPP) ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาสแรกของปี 2565 นั้นมาจากส่วนแบ่งกำไรของโครงการ Theun Hinboun ที่เพิ่มขึ้น 30% โครงการ Don Sahong 49% โครงการ Houay Ho 59% และ โครงการ Xayaburi 100%

ผลิต-ไฟฟ้าลาว พร้อมขายหุ้นกู้ 1,085.5 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย6.50%

ส่วนช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ ประเมินว่า จะมีปริมาณมวลน้ำไหลผ่านประมาณ 15,626 ล้านลูกบาศก์เมตร สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 131.96% ช่วยสนับสนุนความสามารถด้านการผลิตกระแสไฟฟ้ามากขึ้น ทำให้ EDL-Gen มีศักยภาพการผลิตกระแสไฟฟ้าตอบสนองความต้องการใช้พลังงานในประเทศสปป.ลาว และจำหน่ายแก่ประเทศในอาเซียนเพิ่มขึ้น

 

นอกจากนี้ งบการเงินปี 2564 จะเห็นได้ว่าบริษัทฯ มีสัดส่วนของรายได้ที่มาจากการจำหน่ายไฟฟ้าส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินต่างชาติ (สกุลเงินกีบประมาณ 34% ดอลลาร์สหรัฐประมาณ 51% และ บาทไทยประมาณ 15%) ทำให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่น้อยลง กระแสเงินสดจากการดำเนินงานของ EDL-Gen จึงมีความมั่นคงดี

 

ขณะเดียวกัน EDL-Gen ยังวางกลยุทธ์เน้นเพิ่มรายได้จากสกุลเงินต่างประเทศ โดยการขยายการส่งออกไฟฟ้าไปต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสการขายไฟแล้วจะช่วยให้บริษัทฯ ลดความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ระดับหนึ่งอีกด้วย

 

โครงการที่ส่งออกไฟฟ้าไปยังต่างประเทศ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ในปี 2565 เช่น

  • โครงการที่ร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (IPP) Nam Thuen 1 กำลังการผลิตติดตั้งรวม 650 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งไฟฟ้ามายังประเทศไทยทั้งหมด 80% ของกำลังการผลิตติดตั้ง 
  • โครงการที่ร่วมลงทุนกับภาคเอกชน (IPP) Xekaman3 กำลังการผลิตติดตั้งรวม  250 เมกะวัตต์ ซึ่งจะส่งไฟฟ้าไปยังประเทศเวียดนามทั้งหมด 90% ของกำลังการผลิตติดตั้ง
  • โครงการที่ EDL-Gen เป็นผู้ลงทุนเอง (HPP) Nam Chiane ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายในการเตรียมความพร้อม โดยเป็นโครงการแรกของบริษัทฯที่คาดว่า จะเริ่มส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปยังประเทศเวียดนามโดยตรงจำนวน 104 MW ภายในเดือน ส.ค. นี้