"บลูบิค"ปรับเป้าธุรกิจปี65 โตไม่ต่ำกว่า 70% หลังQ1ทำนิวไฮทะลุ 120%

11 พ.ค. 2565 | 12:44 น.
อัปเดตล่าสุด :11 พ.ค. 2565 | 19:44 น.

บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) ปรับเป้าธุรกิจปี 65 โตไม่ต่ำกว่า 70% จากเดิม 50% หลังโชว์นิวไฮ Q1/65 ทำรายได้และกำไรโตทะลุ 120% ตุนแบ็คล็อกแน่นกว่า 458 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ในปีนี้มากกว่า 247 ล้านบาท

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับประมาณการการเติบโตในปี 65 เป็นไม่ต่ำกว่า 70% เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 50% เนื่องจากผลประกอบการไตรมาส 1/65 ทำนิวไฮทั้งรายได้ กำไร และมูลค่างานในมือ (Backlog) โดยมีรายได้ 111.34 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% และกำไรสุทธิ 28.64 ล้านบาท เติบโตขึ้น 132% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 49.78 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 12.34 ล้านบาท
          

ขณะที่ Backlog ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 458 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้มากกว่า 247 ล้านบาท ประกอบกับ แนวโน้มการฟื้นตัวของภาพรวมเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังนี้จากการผ่อนคลายมาตรการการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 และการปลดล็อกการเดินทางเข้า-ออกของหลายประเทศจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
         

นอกจากนี้ การกลับมาดำเนินงานทำกิจกรรมทางการตลาดของภาคธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนโดยรวม รวมถึงกระแสการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการให้บริการแบบครบวงจรของบริษัทที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้การเติบโตในทุกมิติของบริษัทจึงเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ ผนวกกับวิสัยทัศน์ในการขยายบริการและมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ อยู่เสมอ ทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าและนักลงทุนเป็นอย่างดี

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/65 ด้านบริการพัฒนาระบบดิจิทัลและให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี (Digital Excellence and Delivery) ยังเป็นหลักในการผลักดันรายได้ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้ 69.43 ล้านบาท ตามด้วยบริการให้คำปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ (Management Consulting) ที่มีรายได้ 28.78 ล้านบาท บริการที่ปรึกษาการบริหารจัดการโครงการเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic PMO) ที่สร้างรายได้ 7.76 ล้านบาท และบริการที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง (Big Data and Advanced Analytics) ที่มีรายได้ 5.37 ล้านบาท ตามลำดับ ในส่วนรายได้จากงานต่างประเทศนั้นยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสที่ 1 มีรายได้อยู่ที่ 23.53 ล้านบาท
         

 

บริษัทยังมีส่วนแบ่งกำไรอีก 6.60 ล้านบาท จากบริษัท ออร์บิท ดิจิทัล จำกัด (ORBIT) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง BBIK และ บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก (OR) ซึ่งอัตรากำไรสุทธิของ ออร์บิท ดิจิทัล นั้นสูงขึ้นเนื่องจากได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI ในไตรมาสที่ผ่านมา และในส่วนของบลูบิคนั้น คาดว่าจะได้รับอนุมัติยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเป็นเวลา 8 ปีในช่วงไตรมาสที่ 2/65
       

 

 "อุตสาหกรรมเทคโนโลยียังอยู่ในช่วงขาขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าโดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ เนื่องจากมีโครงการใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูงทยอยเข้ามาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นเพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านบริการแบบครบวงจรและตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี บริษัทฯ จึงจัดสรรงบประมาณสำหรับการลงทุนกว่า 80 ล้านบาท สำหรับช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ในการขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทฯ รวมถึงกิจการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต" นายพชร กล่าว

ในส่วนผลิตภัณฑ์และโซลูชันด้านบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลบนระบบคลาวด์ (HR Cloud Solution) ภายใต้ชื่อ HumanOS ที่พัฒนาโดย ไอที-แคท ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาและออกแบบซอฟต์แวร์เพื่องานบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลที่บริษัทเข้าซื้อหุ้น 40% เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานั้น BBIK เตรียมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าของ HumanOS ที่มีฐานผู้ใช้งานค่อนข้างมากอยู่แล้วให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยวางกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดที่มีศักยภาพทั้งองค์กรขนาดเล็กและกลาง ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ๆ บนระบบ HumanOS ที่ตอบโจทย์กระแสความต้องการนำเทคโนโลยีไปใช้งานด้านทรัพยากรบุคคล โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าการขยายฐานตลาดของระบบดังกล่าวจะเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำเร็จรูปสำหรับองค์กร (Enterprise Application) เพื่อสร้างการเติบโตให้กับบริษัทในเครือได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
         

ทั้งนี้บริษัทยังคงดำเนินงานตามแผนการเพิ่มจำนวนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี (Tech Talent) โดยในปีนี้มีแผนสรรหาบุคลากรเพิ่มอีกกว่า 100 ตำแหน่ง อาทิ บุคลากรในสายงานพัฒนาระบบซอฟท์แวร์ สายงานวิศวกรข้อมูลและวิทยาศาสตร์ข้อมูล และสายงาน Digital Product Management เพื่อรองรับการเติบโตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัทฯ