10 หุ้นปันผลเด่น ดีต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน

25 มี.ค. 2565 | 07:08 น.
2.9 k

ช่วงตลาดหุ้นผันผวน นักลงทุนอาจประเมินสถานการณ์ได้ยาก ตลาดหุ้นก็มีโอกาสที่จะปรับลงได้อีก แต่หากนักลงทุนยังต้องการให้เงินทำงานผ่านตลาดหุ้น ทางออกเห็นจะเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุนได้

ในช่วงที่สถานการณ์เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน และตลาดหุ้นมีความผันผวน นักลงทุนส่วนใหญ่จะหันไปหาหุ้นปันผล ซึ่งเป็นหุ้นปลอดภัย (Defensive Stock) แม้ว่าหุ้นกลุ่มนี้เมื่อลงทุนแล้วอาจไม่สามารถทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital Gain) ได้สูงมากนัก แต่ก็จะมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ

 

เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดแรงกดดันต่อความผันผวนของตลาดหุ้น หมายความว่าเมื่อใดก็ตามที่ตลาดหุ้นมีความผันผวนจนนักลงทุนรู้สึกวิตกกังวลว่าจะส่งผลต่อพอร์ตลงทุน ก็มักจะเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ด้วยการมองหาหุ้นที่ลงทุนแล้วมีความปลอดภัยสูง นั่นคือ หุ้นที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ดีต่อเนื่อง

 

หุ้นปันผล คือ หุ้นที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทน ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องมีอัตราจ่ายเงินปันผลสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อ สมมติว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 3% หุ้นที่เข้าข่ายเป็นหุ้นปันผลจะต้องมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่า 3% เป็นต้น นอกจากนี้จะต้องสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหุ้นโดยรวม หรือสูงกว่าอัตราเงินปันผลตอบแทนของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

นอกจากต้องเป็นหุ้นที่มีอัตราเงินปันผลตอบแทนแล้ว หากหุ้นตัวนั้นเป็นหุ้น Low Beta จะช่วยลดความเสี่ยงของการลงทุนลงไปได้อีก เพราะค่าเบต้า (Beta) เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนใช้เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้นเทียบกับการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นโดยรวม

 

ตามคำนิยามดัชนีของตลาดหุ้นจะมีค่าเบต้าเท่ากับ 1.0 และค่าเบต้าของหุ้นแต่ละตัวจะมีการจัดอันดับตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นที่เบี่ยงเบนมากหรือน้อยเมื่อเทียบกับดัชนีของตลาดหุ้น ดังนั้น หุ้นที่มีค่าเบต้ามากกว่า 1 จะมีความผันผวนมากกว่าตลาดโดยรวม ตรงกันข้ามหุ้นที่มีเบต้าต่ำกว่า 1 จะมีความผันผวนน้อย

 

ดังนั้น หุ้นที่มีค่าเบต้าสูงจะมีความเสี่ยงมากขึ้น แต่ให้ศักยภาพในการรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันหุ้นที่มีค่าเบต้าต่ำความเสี่ยงจะลดลง แต่โอกาสการรับผลตอบแทนก็จะไม่สูง

 

ถ้าตลาดหุ้นอยู่ในช่วงผันผวน ไร้ทิศทางที่ชัดเจน ควรเลือกลงทุนในหุ้นที่มีค่าเบต้าต่ำกว่า 1 (Low Beta) เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน และแน่นอนว่าหุ้นที่ Low Beta มักจะให้อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด ซึ่งสามารถเป็นกันชนที่จะช่วยลดความผันผวนของราคาหุ้นได้

 

10 หุ้นปันผลเด่น ดีต่อเนื่อง 5 ปีติดต่อกัน

เงื่อนไขการจัดอันดับ

 

1.อัตราเงินปันผลตอบแทนมากกว่า 5% ตลอด 5 ปี (2560 – 2564) และมากกว่า 5% ในรอบ 12 เดือน (ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565)

2.ค่าเบต้าน้อยกว่า 1 (ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565)

3.กำไรสุทธิมากกว่า 0 (ไม่ขาดทุน) ตลอด 5 ปี (2560 – 2564)

4.ค่า P/E Ratio ไม่เกิน 16 เท่า (อ้างอิงกับค่าเฉลี่ย P/E Ratio ของตลาดหุ้นไทยตลอด 20 ปี (2545 – 2564) เท่ากับ 16 เท่า)

 

หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน

 

โดย  :  ฐิติเมธ โภคชัย ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย