ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 599 จุด ตลาดคลายกังวลเงินเฟ้อหลังราคาน้ำมันร่วง

16 มี.ค. 2565 | 06:53 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มี.ค. 2565 | 13:54 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 600 จุดในวันอังคาร (15 มี.ค.) รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ หลังราคาน้ำมันร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรล และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,544.34 จุด เพิ่มขึ้น 599.10 จุด หรือ +1.82% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,262.45 จุด เพิ่มขึ้น 89.34 จุด หรือ +2.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,948.62 จุด เพิ่มขึ้น 367.40 จุด หรือ +2.92%
         

นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.9% หลังจากที่พุ่งขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค.
         

นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ โดยราคาน้ำมันดิบWTI และน้ำมันดิบเบรนท์ต่างก็ร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 100 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้
 

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.43% โดยหุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 3.85% หุ้นหุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 3.87% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 2.58% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 2.59%
         

หุ้นกลุ่มสายการบินและเรือสำราญพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันร่วงลง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 8.68% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 9.26% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 96.19% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 5.37% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส ดีดขึ้น 3.79%
         

อย่างไรก็ดี การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลง 3.72% โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 5.06% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ดิ่งลง 4.29% หุ้นโคโนโคฟิลลิปส์ ลดลง 1.55% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 5.69%
 

นักลงทุนจับตาผลการเจรจาสันติภาพรอบที่ 4 ระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งเป็นการเจรจาที่เกี่ยวข้องกับการเรียกร้องให้รัสเซียทำการหยุดยิง และถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน
         

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 4 ปี
         

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.