แรงขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน กดหุ้นไทยปิดร่วง 15.79 จุด

15 มี.ค. 2565 | 18:16 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มี.ค. 2565 | 01:17 น.

หุ้นไทยปิดร่วง 15.79 จุด ตามแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบลดลง 6% แถมสถานการณ์โควิด-19 ในจีนยังไม่ดี หลังจากล็อกดาวน์เซิ่นเจิ้น หวั่นกระทบเศรษฐกิจในเอเชีย

รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)ระบุว่า การซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์  ดัชนีหุ้นไทยขึ้นไปยืนในแดนบวกได้สูงสุดเพียง 1,663.32 จุด จากนั้นดัชนีก็ไหลรูดลงมาซื้อขายในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีลงไปต่ำสุดที่ระดับ 1,639.90 จุดลดลง 20.25 จุด ก่อนดัชนีจะปิดซื้อขายที่ระดับ  1,644.36 จุด ลดลง 15.79 จุด (-0.95%) มูลค่าการซื้อขาย 82,506.52 ล้านบาท

 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 450 หลักทรัพย์ ลดลง 1,481 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 465 หลักทรัพย์

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์

  • KBANK มูลค่าการซื้อขาย 3,988.26 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท ลดลง 3.50 บาท
  • PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 3,675.21 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
  • PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,324.24 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
  • BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,044.34 ล้านบาท ปิดที่ 26.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
  • BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,810.54 ล้านบาท ปิดที่ 10.80 บาท ลดลง 0.40 บาท

 

สำหรับการซื้อขายของนักลงทุนรายกลุ่มพบว่า สถาบันในประเทศ ขายสุทธิ  1,414.35 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ  257.71 และนักลงทุนต่างประเทศ 954.98 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ  2,627.04 ล้านบาท

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวงเปิดเผยว่า  ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายย่อตัวลงมาต่อเนื่องจากช่วงเช้า ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคและตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวลดลง โดยปัจจัยหลักมาจากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 6% ลงมาหลุด 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการสายงานค้าหลักทรัพย์บุคคล บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง

ขณะเดียวกันยังมีความกังวลสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศจีน หลังจากกลับมาล็อกดาวน์เซิ่นเจิ้นและยังล็อกดาวน์เพิ่มอีก 2-3 เมือง ทำให้ตลาดกังวลว่า อาจผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจในเอเชีย และการบริโภคอาจชะลอตัวได้ ซึ่งมีผลต่อดีมานด์สินค้าโภคภัณฑ์ และกิจกรรมการค้าขายทั้งการนำเข้าและส่งออก รวมทั้งค่าระวางเรือ ซึ่งในวันนี้จะเห็นว่ากลุ่มเดินเรือมีแรงเทขายออกมามาก และยังขายกลุ่มธนาคารพาณิชย์ด้วยเช่นกัน

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้คาดว่า แกว่งตัวไซด์เวย์ ติดตามการประชุมประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คืนวันนี้และพรุ่งนี้ ว่าจะกลับมาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีตามที่ตลาดคาดไว้หรือไม่ และแนวโน้มการปรับในครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร

 

รวมถึงท่าทีการลดขนาดงบดุล นอกจากนั้นยังต้องติตดามสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ในจีน เพราะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียให้แนวต้าน 1,650 จุด และแนวรับ 1,630 จุด