ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 653 จุด ขานรับเจรจาสันติภาพ"รัสเซีย-ยูเครน"คืบหน้า

10 มี.ค. 2565 | 06:53 น.
อัปเดตล่าสุด :17 มี.ค. 2565 | 17:37 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 600 จุดในวันพุธ (9 มี.ค.) ขานรับรายงานการเจรจาระหว่างรัสเซียและยูเครนมีความคืบหน้า ซึ่งอาจปูทางให้สงครามในยูเครนยุติลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 33,286.25 จุด เพิ่มขึ้น 653.61 จุด หรือ +2.00%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,277.88 จุด เพิ่มขึ้น 107.18 จุด หรือ +2.57% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,255.55 จุด เพิ่มขึ้น 459.99 จุด หรือ +3.59%

 

นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครนและกลับเข้าซื้อหุ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความหวังที่ว่าสงครามในยูเครนใกล้ยุติลง หลังจากมีข่าวว่ายูเครนได้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต)
 

ทางด้านนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยว่า การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนเพื่อแก้ไขความขัดแย้งนั้น กำลังมีความคืบหน้า พร้อมกับยืนยันว่ารัสเซียไม่มีความประสงค์ที่จะโค่นล้มรัฐบาลยูเครน และไม่มีเป้าหมายโจมตีพลเรือน
         

นอกจากนี้ นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินกล่าวว่า รัสเซียต้องการเจรจาสันติภาพรอบใหม่กับยูเครน ทันทีที่คณะผู้แทนของยูเครนมีความพร้อม และยังกล่าวด้วยว่าการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซียและยูเครนในวันนี้ (10 มี.ค.) ที่ตุรกี ถือว่ามีความสำคัญในกระบวนการหารือเพื่อหาทางออกให้กับวิกฤตการณ์ในยูเครน
         

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.98% โดยหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส พุ่งขึ้น 4.31% หุ้นอัลฟาเบท พุ่งขึ้น 4.97% ห้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 3.5% หุ้นไมโครซอฟท์ ดีดขึ้น 4.59%
         

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้น 3.61% โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 3.79% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ทะยานขึ้น 6.38% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 4.87% หุ้นเจพีมอร์แกน พุ่งขึ้น 4.03%
         

ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลงกว่า 12% เมื่อคืนนี้ และเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มเรือสำราญ โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 4.93% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 5.85% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป พุ่งขึ้น 8.68% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครูส บวก 5.4%

 

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันนี้ ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 15-16 มี.ค. ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 2 ในปีนี้