เกาะติดสงครามรัสเซีย-ยูเครน อัพเดทล่าสุดหลังสหรัฐอเมริกา (US) และ สหราชอาณาจักร (UK) วางแผนที่จะห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซีย โดยปราศจากความร่วมมือจากพันธมิตรอื่นในยุโรป โดยการห้ามการนำเข้าของ US จะรวมถึง น้ำมันดิบ LNG และถ่านหิน
ทั้งนี้ US มีการนำเข้าน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมจากรัสเซียคิดเป็น 8% (2021) และ UK 8% (2020) ในขณะเดียวกัน UK จะทยอยการห้ามนำเข้าในหลายเดือนข้างหน้า อย่างไรก็ดี การห้ามนำเข้านี้จะไม่รวมถึง ก๊าซฯ ขณะที่เยอรมันได้ประกาศว่าจะยังนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย แม้ว่าก่อนหน้านี้จะประกาศหยุดการรับรองโครงการก๊าซฯ Nord Stream 2
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) (KTBST) ประเมินว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาน้ำมันดิบ Brent วานนี้ปิดที่ USD128/bbl +3.9% ขณะที่เช้านี้ ( 9 มี.ค.65 ) ยังปรับตัวขึ้นต่อแตะระดับ USD130/bbl แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดที่เห็นตั้งแต่ปี 2008 แนะนำให้เทรดหุ้นที่ยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากนัก
โดยประเมินว่าหุ้นที่จะ outperform มากสุด ได้แก่
ส่วนหุ้นที่จะ underperform ได้แก่
ฝ่ายวิจัย KTBST ได้ประเมินหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงบวกและลบจากราคาน้ำมันดิบที่สูง ดังนี้
เซ็กเตอร์และหุ้นที่จะได้รับผลกระทบเชิง "บวก"
เซ็กเตอร์และหุ้น ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบ
ที่มา : KTBST