ก.ล.ต.เล็งปรับเกณฑ์ให้กองทุนอสังหา-กอง IFF ลงทุนกองอื่นในบลจ.เดียวกัน

17 ก.พ. 2565 | 14:00 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.พ. 2565 | 20:59 น.

ก.ล.ต. เตรียมปรับปรุงหลักเกณฑ์ ให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน(IFF) สามารถลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้บริษัทจัดการเดียวกันได้

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ของ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (กอง infra) ให้มีความยืดหยุ่นในการบริหารทรัพย์สินอื่นมากขึ้น โดยให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้ บลจ. เดียวกันได้ โดยยังคงมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเหมาะสม

 

ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์ให้กอง 1 และกอง infra สามารถลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้ บลจ. เดียวกันได้ โดยต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ในแนวทางเดียวกับหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมทั่วไป ดังนี้  
 

 (1) เปิดให้สามารถลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้ บลจ. เดียวกันได้ รวมแล้วไม่เกิน 3 ชั้นคือ กองทุนรวมต้นทางลงทุนในกองทุนรวมปลายทางกองที่ 1 และกองทุนรวมปลายทางกองที่ 1 ลงทุนในกองทุนรวมปลายทางกองที่ 2 โดยห้ามไม่ให้กองทุนรวมปลายทางกองที่ 1 หรือ 2 ลงทุนย้อนกลับในกองทุนรวมต้นทาง (circle investment)  
         

(2) ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการจัดการ ค่าธรรมเนียมการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนจากผู้ถือหน่วยลงทุนหรือกองทุนรวมอื่นที่ไปลงทุน ในลักษณะที่ซ้ำซ้อนกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมอื่น
         

(3) ไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงในกองทุนรวมอื่นภายใต้ บลจ. เดียวกัน  
         

(4) เปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนดในโครงการ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหน่วยลงทุนในกองทุนรวมอื่นภายใต้ บลจ. เดียวกัน พร้อมทั้งอัตราส่วนการลงทุนในกรณีดังกล่าวและข้อมูลเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมตามข้อ (2)
         

(5) เปิดเผยข้อมูลตามที่กำหนดในหนังสือชี้ชวนเสนอขายหน่วยลงทุน ซึ่งนอกจากเปิดเผยข้อมูลตามข้อ (4) ยังต้องเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ ได้แก่ ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้สิทธิออกเสียงตามข้อ (3) ความเป็นไปได้ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ และมาตรการป้องกันและจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพด้วย
         

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=783  ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail : [email protected]; [email protected]; [email protected] จนถึงวันที่ 18 มีนาคม 2565