เมืองไทยประกันภัย งัดเทคโนโลยีปรับตัวรับเทรนด์ Insur Tech

18 ม.ค. 2565 | 16:58 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ม.ค. 2565 | 00:25 น.

เมืองไทยประกันภัย ปรับตัวฝ่าวิกฤติโควิด-19 นำเทคโนโลยีผสานระบบริการทุกช่องทาง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพบริการ สร้างมัลติสกิลทีมงาน เพิ่มความยืดหยุ่นการทำงานตอบรับโจทย์ผู้บริโภค

นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI ผู้ให้บริการด้านประกันวินาศภัย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19บริษัทฯ ได้ปรับบิซิเนสโมเดลในส่วนต่างๆ ให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับสภาพตลาด

 

โจทย์หลักๆ ของ ‘เมืองไทยประกันภัย’ คือ การปรับตัว และปรับเปลี่ยน เพื่อรองรับและก้าวตามให้ทันต่อสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนตลอดเวลา โดยวิเคราะห์ติดตามเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมอย่างใกล้ชิด รวมถึงใส่ใจในพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป หลังจากที่ถูกไวรัสโควิด-19 และดิจิทัล เข้ามา disturb ทำให้การใช้ชีวิตต้องปรับตัวเพื่อรองรับต่อสถานการณ์ จนเกิดปรากฏการณ์ New Normal ขึ้น เมืองไทยประกันภัยจึงได้ปรับ Business Model ให้มีความเหมาะสมในทุกๆ ด้าน

เริ่มตั้งแต่การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้มีความสอดคล้องและรองรับความต้องการของผู้บริโภคในตลาดประกันมากขึ้น มอบความคุ้มครองที่คุ้มค่า สร้างทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค อาทิ ประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพ ประกันภัยรถยนต์ ประกันภัยการเดินทาง ประกันอัคคีภัยและทรัพย์สิน ประกันภัยสำหรับภาคธุรกิจ และประกันภัยอื่น ๆ 

 

การพัฒนาช่องทางการให้บริการ โดยยึดหลักการพัฒนาการให้บริการที่ผสมผสานระหว่าง ช่องทางบริการเดิมที่มีอยู่และช่องทางดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น และเร่งขยายช่องทางใหม่ผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจในกลุ่มสถาบันทางการเงิน และนอกเหนือจากนั้น ยังได้ขยายช่องทางไปยังแพลตฟอร์มอื่นๆ เช่น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซอสังหาริมทรัพย์ และแอปพลิเคชันอื่นๆ เพื่อรองรับความต้องการและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายได้กว้างมากขึ้น 

การพัฒนาทรัพยากรบุคคลภายในองค์กร เน้นการทำงานที่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น 

คู่ไปกับการเสริมสร้างความรู้แบบไม่หยุดนิ่ง สร้างบรรยากาศการทำงานที่ยืดหยุ่น ด้วยการหมุนเวียนสลับปรับเปลี่ยนหน้าที่ช่วยเหลือองค์กรในช่วงวิกฤต พร้อมกับยกระดับศักยภาพการทำงานให้แก่พนักงาน เพราะเชื่อว่า องค์กรจะเดินหน้าต่อไปได้ ต้องอาศัยบุคลากรที่มีศักยภาพ อันเป็นผลที่ดีต่อการทำงาน และการให้บริการแก่ลูกค้าได้ที่พัฒนาขึ้นในอนาคต 

 

การพัฒนาเทคโนโลยีขององค์กร เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ และรับเทรนด์ InsurTech สร้างการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการเงินและบัญชี การจัดซื้อ การเคลมออนไลน์ การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยทำงานหลังบ้าน เพื่อปรับตัวให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมการบริหารงานภายในให้มีประสิทธิภาพ ทำงานได้อย่างแม่นยำ 

 

นอกจากนี้ การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม บริษัทฯ ได้มอบความคุ้มครองประกันภัยโควิด-19 ให้แก่กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ ของสถาบันทางการแพทย์ มอบอาหารครัวมาดามแก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรของโรงพยาบาลสนามเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้บุคลากรด่านหน้าทุกท่านได้อุ่นใจและทำหน้าที่ดูแลคนไทย เต็มกำลังความสามารถ การแจกประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ให้แก่คนทั้งประเทศ จำนวน 2 ล้านสิทธิ์ การมอบอุปกรณ์การแพทย์ แก่รพ. ต่างๆเพื่อใช้ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 รวมไปถึงการมอบกรมธรรม์และเงินสนับสนุนประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มเจ้าหน้าที่อาสาดับไฟป่าเพื่อชาติ 

 

จากการปรับตัว ทำให่ปีที่ผ่านมา เมืองไทยประกันภัย รางวัลต่าง ๆ จากหลายหน่วยงาน อาทิ รางวัลบริษัทประกันวินาศภัยที่มีการบริหารดีเด่น จากสำนักงาน คปภ., การรับรองจากโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย ประจำปี 2564 เป็นต้น 

 

สำหรับการทำธุรกิจในยุคนี้ จะต้องใช้ศาสตร์ที่สำคัญ คือ ศาสตร์แห่งการปรับตัว และปรับเปลี่ยน ทำให้บริษัทฯสามารถดำเนินธุรกิจผ่านพ้นวิกฤต นำพาองค์กรก้าวสู่ปีที่ 90 โดยยืนยันว่า บริษัทฯ ยังคงพร้อมให้การดูแลและคุ้มครองลูกค้าทุกท่านที่ถือกรมธรรม์ประกันภัยของเมืองไทยประกันภัย ทุกแผน ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัยรวมไปถึงประกันภัยโควิด-19 ทุกกรมธรรม์ จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาความคุ้มครอง