กรมศุลกากร เดินหน้าตรวจเข้มสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

06 ม.ค. 2565 | 19:44 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ม.ค. 2565 | 02:44 น.

กรมศุลกากรเดินหน้าเข้ม ตรวจสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา หลังครม.ให้ความเห็นชอบ ร่างประกาศให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก-นำเข้า-ผ่านราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรในฐานะโฆษกกรมศุลกากรเปิดเผยว่า กรมศุลกากรได้ดำเนินการปราบปรามสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาหรือสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ โดยเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนเป็นระยะ และเพื่อเป็นการรองรับ (ร่าง) ประกาศกระทรวงพาณิชย์เรื่อง กำหนดให้สินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นสินค้าที่ต้องห้ามส่งออก ห้ามนำเข้า และห้ามนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ 

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรในฐานะโฆษกกรมศุลกากร

 

โดยมีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับกรมศุลกากร คือ การกำหนดให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าหรือเจ้าของลิขสิทธิ์ สามารถแจ้งข้อมูลเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์ต่อพนักงานศุลกากรตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ที่กรมศุลกากรกำหนด เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสินค้าที่มีเหตุสงสัยว่า จะมีการละเมิดเครื่องหมายการค้าหรือการละเมิดลิขสิทธิ์ 

ดังนั้น กรมศุลกากรจึงได้ดำเนินการปรับปรุงกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น การสร้างช่องทางให้เจ้าของเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์ สามารถยื่นคำขอแจ้งข้อมูลเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์ ที่พนักงานศุลกากรจะใช้ในการพิสูจน์ว่าสินค้าที่นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านประเทศ เป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าหรือลิขสิทธิ์หรือไม่ 

 

ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานของกรมศุลกากรเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการนำเข้า – ส่งออกที่สุจริตสามารถผ่านพิธีการศุลกากรได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรได้ให้ความสำคัญและเข้มงวดเกี่ยวกับการนำเข้า ส่งออก รวมถึงนำผ่านสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์เพราะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิตและทรัพย์สินจากการใช้สินค้าที่ไม่ได้คุณภาพ รวมถึงเพื่อปฏิบัติตามความตกลงระหว่างประเทศว่า ด้วยสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาทางการค้า (TRIPS) และข้อตกลงว่าด้วยหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)ฯลฯ