บลจ.ไทยพาณิชย์ ลุยหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ทั่วโลก

04 ม.ค. 2565 | 20:03 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ม.ค. 2565 | 03:04 น.
959

บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดขายกองทุน SCBMEGA ลุยหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ทั่วโลก IPO 4–14 ม.ค.นี้ คัดสรรสุดยอดหุ้นทั่วโลกในกองทุนชั้นนำระดับเวิลด์คลาส

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯประสบความสำเร็จจากการนำเสนอกองทุนหุ้นทั่วโลก ซึ่งบริหารโดยบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ เมื่อเดือนพ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ได้มองเห็นโอกาสการเติบโตของหุ้นกลุ่มเมกะเทรนด์ทั่วโลก จึงต่อยอดโอกาสการลงทุนให้กับนักลงทุนทั่วไป

นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด

ด้วยรูปแบบการลงทุนระดับ Private Wealth จากทีมผู้จัดการกองทุนของบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ ที่ครอบคลุมการลงทุนมากกว่า 250 Active Funds และ 500 Passive Funds จึงยเปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Megatrends (SCBMEGA) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท เสนอขายครั้งแรก 4 – 14 มกราคม 2565นี้
 

กองทุน SCBMEGA มีกลยุทธ์การลงทุนเชิงรุก ผ่านการลงทุนในกองทุนหลัก (Core Fund) และกองทุนเสริม (Satellites Funds) เพื่อสร้างการเติบโตของผลตอบแทนโดยการลงทุนแบบ Pro-active และปรับเปลี่ยนการลงทุน Satellites ให้เหมาะกับสภาวะโอกาสที่น่าสนใจ 

 

5 เมกะเทรนด์หลักที่เลือกลงทุน ประกอบด้วย

  1. Arising Asia การเพิ่มขึ้นของประชากรในภูมิภาคเอเชีย 
  2. Digital Disruption เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง 
  3. Energy Transition แนวโน้มการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้พลังงาน
  4. Feeding the World ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตทรัพยากรที่จะรองรับการเพิ่มขึ้นของประชากรโลกในอนาคต
  5. Shifting Lifestyle โครงสร้างอายุของประชากรที่เปลี่ยนไป

กองทุนหลักจะลงทุนผ่านกองทุน JB Equity Next Generation Fund ด้วยการคัดเลือกบริษัทที่มีโอกาสการเติบโตระยะยาว มีอัตรากำไรสูงและเน้นลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้ชนะในอนาคต  ส่วนกองทุนเสริมจะลงทุนในกองทุนที่มีนโยบายที่ได้ประโยชน์จากเมกะเทรนด์เช่นเดียวกัน 

 

เบื้องต้นได้เลือกลงทุนใน 3 กองทุน ได้แก่ Robeco Global Consumer Trends ลงทุนในบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มและรูปแบบของการบริโภค, BB Adamant Digital Health ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาระบบ Healthcare ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยต้นทุนที่ถูกลง และ Pictet Nutrition Fund ลงทุนในบริษัทที่พัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพของ Food Chain

 

“การลงทุนที่เน้นเลือกหุ้นที่เติบโตสอดคล้องไปกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวของโลก หรือได้รับประโยชน์จาก Global Megatrendsทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ชีวิตของผู้คน และพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในโลกอนาคตต่าง ๆ มากกว่าการมุ่งเน้นหากำไรในระยะสั้น นับว่าเป็นโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับนักลงทุน"นางนันท์มนัส กล่าว

 

สำหรับ SCBMEGA เป็นกองทุนหุ้นทั่วโลกที่มีนโยบายลงทุนในบริษัทที่มีรูปแบบโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับ Global Megatrends และคาดว่าจะเป็นบริษัทผู้นำในอนาคต โดยใช้การบริหารพอร์ตแบบ Core & Satellites ด้วยการลงทุนหลากหลายกลุ่มธุรกิจและหลายธีม จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงการกระจุกตัวบนกลุ่มอุตสาหกรรมเดียว ทั้งยังสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอได้ในระยะยาวจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างความเป็นอยู่ในอนาคตที่สะท้อนให้เห็นได้ในรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวัน 

 

ทั้งนี้ กองทุน SCBMEGA เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ เช่น หน่วย CIS หน่วยของกองทุนอีทีเอฟ (ETF) โดยเน้นลงทุนในหุ้นเมกะเทรนด์ที่มีการเติบโตเชิงโครงสร้างในธีมการลงทุนที่สำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงวิถีการดาเนินชีวิตของมนุษย์ในรูปแบบใหม่ การอุปโภคบริโภคที่ให้ความสำคัญต่อผลกระทบที่อาจมีต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการประยุกต์ใช้ซึ่งเทคโนโลยีด้านดิจิทัลในชีวิตประจำวัน เป็นต้น ส่งผลให้กองทุนมี net exposure ในตราสารทุนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน 

 

กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุน โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน  79%  ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยบริษัทฯ ได้มอบหมายให้ บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด เป็นผู้รับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุนของกองทุน กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสาหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน