ไอพีโอปี64 คึกคัก ระดมทุนแตะแสนล้านบาท
หุ้นไอพีโอปี 64 คึกคัก เข้าจดทะเบียนซื้อขายรวม 35 ราย มูลค่าระดมทุนแตะ 1 แสนล้านบาท ดันมาร์เก็ตแคปเพิ่ม 4.3 แสนล้านบาท สูงกว่าช่วงไม่มีโควิด-19 พร้อมจ่อเทรดก่อนสิ้นปีนี้อีก 3 ราย
เข้าสู่ช่วงโค้งท้ายปี 2564 หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลาย ทำให้หลายกิจกรรมกลับมาดำเนินการต่อได้ และแม้จะพบสายพันธุ์ใหม่ “โอมิครอน” แต่ตลาดหุ้นมีความกังวลเพียงระยะสั้นเท่านั้น บริษัทจดทะเบียน (บจ.) หลายแห่งยังคงทยอยเข้าจดทะเบียนและเสนอขายหุ้นสามัญแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) อย่างต่อเนื่อง
รายงานข่าวจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2564 มีบจ.ที่เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายแล้ว 35 ราย มูลค่าระดมทุน 93,414.86 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแคป) ณ ราคาไอพีโอ รวม 428,115.65 ล้านบาทแบ่งเป็น SET 17 ราย มูลค่าระดมทุน 76,937.30 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ 399,972.39 ล้านบาท และตลาด mai 18 ราย มูลค่าระดมทุน 7,012.56 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ 28,143.26 ล้านบาท
เทียบกับปี 2563 ที่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 มีบจ.เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขาย 26 ราย มูลค่าระดมทุน 130,793.88 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ 550,049.12 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 ที่ยังไม่มีโควิด -19 มีบจ.เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขาย 28 ราย มูลค่าระดมทุน 73,693.92 ล้านบาท มาร์เก็ตแคป ณ ราคาไอพีโอ 3 62,860.21 ล้านบาท สะท้อนว่า ยังมีบจ.ที่มีความต้องการระดมทุนอีกมาก
ทั้งนี้ยังมีอีก 3 บจ.ที่คาดว่า จะเข้าซื้อขายในช่วงที่เหลือของปีนี้คือ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) (BRI) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ในเครือของ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (ORI)โดยจะเสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวนไม่เกิน 252.65 ล้านหุ้น สัดส่วน 29.60% ราคาหุ้นละ 10.50 บาท
วัตถุประสงค์ในการระดมทุน BRI จะนำไปใช้พัฒนาโครงการ ชำระคืนเงินกู้ยืมและเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ คาดว่า หลังชำระคืนเงินกู้ยืม อัตราหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) จะปรับลงมาต่ำกว่า 4.8 เท่า โดยปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 2,342.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 11.4 ล้านบาทในปี 2560 หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ย (CAGR) 489.7% ต่อปี
นางศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 21 ธันวาคมนี้ หลังจากได้รับการตอบรับจองซื้อหุ้นไอพีโออย่างคึกคัก ทั้งจากนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันที่จองซื้อเกินจำนวนหุ้นที่จัดสรรไว้ถึง 10 เท่า ส่งผลให้สามารถระดมทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
ขณะที่ บริษัท โนวา ออร์แกนิค จำกัด (มหาชน) (NV) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารเสริมและบริการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (OEM) แบบครบวงจร จะเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 150 ล้านหุ้น คิดเป็น 25% กำหนดราคาที่หุ้นละ 6.90 บาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนใช้ลงทุนในโรงงานและคลังสินค้าแห่งใหม่ ปรับปรุงโรงงานเดิม ปรับปรุงอาคารสำนักงานแห่งใหม่ และใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ
ด้านผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการขายรวมปี 2561 ที่ 327.42 ล้านบาท ปี 2562 ที่ 478.07 ล้านบาท ปี 2563 ที่ 2,231.29 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 910.14 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิปี 2561 อยู่ที่ 17.60 ล้านบาท ปี 2562 ที่ 75.65 ล้านบาท ปี 2563 ที่ 780.81 ล้านบาท และงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 74.22 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีบริษัท เวิลด์เฟล็กซ์ จำกัด (มหาชน) (WFX) ผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบแป้งและเส้นด้ายยางยืดชนิดเคลือบซิลิโคน ในเครือของ บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TRUBB) เสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 142 ล้านหุ้น คิดเป็น 30.59% แบ่งเป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ TRUBB ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น ไม่เกิน 11.36 ล้านหุ้น, กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท ไม่เกิน 14.2 ล้านหุ้น, ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 18.46 ล้านหุ้น และบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 97.98 ล้านหุ้น
สำหรับราคาไอพีโอหุ้นละ 7.20 บาท มีบล.เคทีบีเอสที เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย รวมถึงผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายร่วมอีก 6 ราย ได้แก่ บล.โกลเบล็ก, บล.คันทรี่ กรุ๊ป, บล.เคจีไอ (ประเทศไทย), บล.ทรีนีตี้, บล.ธนชาต และ บล.ฟินันเซีย ไซรัส วัตถุประสงค์ในการระดมทุนจะนำเงินไปซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิต ใช้คืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,741 วันที่ 19 - 22 ธันวาคม พ.ศ. 2564