SCAP หวั่น คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ ผลักฐานรากเข้าวังวนหนี้นอกระบบ

18 ต.ค. 2564 | 17:17 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ต.ค. 2564 | 00:17 น.

ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล หรือ SCAP หวั่นสคบ.คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ 15% ผลักลูกค้าเช่าซื้อมอเตอร์ไซด์เข้าสูงวันวนหนี้นอกระบบ เหตุความเสี่ยงสูง ต้องเรียกเงินดาวน์สูง ด้าน SAWAD ชี้กระทบต่อธุรกิจค่อนข้างต่ำ เหตุกระจายธุรกิจหลากหลาย

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด หรือ SCAP เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) มีข้อเสนอขอความเห็นประชาพิจารณ์(เฮียริ่ง)เรื่อง กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ 15% ต่อปีว่า มีความเห็นสอดคล้องกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ไทยที่มองว่า ธุรกิจเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์เป็นธุรกิจที่แบกรับความสี่ยงค่อนข้างสูง

นายวิชิต พยุหนาวีชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล จำกัด

ลูกค้าลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มฐานล่าง ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ เกษตรกร ลูกจ้างร้านอาหาร ลูกจ้างโรงงาน พ่อค้าหาบเร่ แผงลอย และไม่มีหลักฐานทางการเงินใดๆ ซึ่งถือเป็นลูกค้าระดับรากหญ้าของประเทศ มีรายได้น้อยไม่สม่ำเสมอ

ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวอยู่ในลักษณะเดียวกันกับกลุ่มนาโนไฟแนนซ์หรือ พิโกไฟแนนซ์ ซึ่งกำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)และกระทรวงการคลัง โดยมีเพดานดอกเบี้ยอยู่ที่ 33-36% และโครงสร้างธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในปัจจุบัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 32-35% และต้นทุนดำเนินงานเฉลี่ย 27% จึงมองว่า ควรกำหนดเพดานดอกเบี้ยที่อัตราเดียวกับนาโนไฟแนนซ์ หรือ พิโกไฟแนนซ์

 

ทั้งนี้จากสถิติพบว่า กลุ่มลูกค้าผิดนัดชำระสูงกว่าสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ และการอนุมัติสินเชื่อประเมินความเสี่ยงได้ยาก เพราะลูกค้ามีแค่บัตรประชาชนใบเดียวในการขออนุมัติสินเชื่อออกรถจักรยานยนต์ การกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับประเภทธุรกิจและความเสี่ยงของกลุ่มลูกค้านี้จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถให้สินเชื่อลูกค้าในกลุ่มนี้ได้ต่อไป

 

การกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมากจนเกินไป จะบีบให้ผู้ประกอบการอนุมัติสินเชื่อได้ยากขึ้น หรือต้องมีการเรียกเงินดาวน์ที่สูง หรือต้องใช้เงินก้อนในการออกรถจักรยานยนต์  จะเป็นการผลักให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้าสู่วังวนของเงินกู้นอกระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

 

เพราะรถจักรยานยนต์ถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นขั้นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิตอย่างปกติสุขของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศเพราะการเดินทางโดยรถยนต์สาธารณะของภาครัฐยังไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิตของประชาชนในส่วนภูมิภาค หรือแม้แต่ประชาชนในเมืองใหญ่ 

 

“หากมองในเศรษฐกิจมหภาค ร่างประกาศนี้จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถจักรยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของประเทศอย่างมาก  เพราะเมื่อประชาชนไม่สามารถซื้อรถจักรยานยนต์ได้ โรงงานผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ก็ไม่สามารถอยู่รอดได้  ประชาชนที่เป็นพนักงาน ลูกจ้างในวัฎจักรการผลิตรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ของประเทศก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วย”นายวิชิตกล่าว

 

ด้านนางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ  SAWAD กล่าวว่า การเปิดรับฟังความเห็นประชาพิจารณ์(เฮียริ่ง)เรื่อง กำหนดเพดานดอกเบี้ยเช่าซื้อ 15% ต่อปีของ สคบ.นั้น ส่งผลกระทบต่อธุรกิจค่อนข้างต่ำ เนื่องจากธุรกิจเช่าซื้อเป็นเพียงส่วนหนึ่งจากหลายธุรกิจที่ SAWAD ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน

 

SCAP หวั่น คุมดอกเบี้ยเช่าซื้อ ผลักฐานรากเข้าวังวนหนี้นอกระบบ

ทั้งนี้ที่ผ่านมา ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นได้ปรับโครงสร้างองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับธุรกิจที่หลากหลาย ไม่พึ่งพิงเพียงธุรกิจใดธุรกิจหนี่ง เพื่อสร้างความยั่งยืนและมั่นคงขององค์กร และธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตและสร้างผลกำไรแบบก้าวกระโดดในอนาคต

 

เช่น การจับมือร่วมกับธนาคารออมสินเพื่อรุกธุรกิจจำนำทะเบียนรถ การผนึกพันธมิตร บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ (NOBLE) ผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (NPL)และทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจนายหน้าประกันภัย หรือแม้แต่ธุรกิจเช่าซื้อ

 

นอกจากนี้ยังได้พัฒนาประสิทธิภาพในการให้บริการเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในธุรกิจจำนำทะเบียนรถ จำนำบ้านและที่ดินที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ จึงมีความมั่นใจว่าร่างประกาศของสคบ ดังกล่าว หากเกิดขึ้นจริงก็จะกระทบต่อธุรกิจเพียงเล็กน้อยเท่านั้น นอกจากนี้ร่างประกาศดังกล่าวยังเป็นเพียงการขอความเห็นประชาพิจารณ์ ยังไม่ถูกกำหนดเป็นกฎหมายบังคับใช้ ซึ่งบริษัทยังคงติดตามเรื่องนี้ต่อไป