หลังจากธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดลงทะเบียนโครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (โครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2) เมื่อวันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 ผลปรากฎว่ามีผู้ให้ความสนใจเข้ามาลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน GHB ALL (เวลา 9.00-16.00 น.) จำนวนกว่า 12,890 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 15,468 ล้านบาท และมีลูกค้าที่เอกสารพร้อมยื่นคำขอกู้แล้วกว่า 1,000 ล้านบาท
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ลูกค้าที่สนใจเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลัง ระยะที่ 2 เพื่อซื้อบ้าน หรือห้องชุด ทั้งที่เป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์บ้านมือสอง และทรัพย์ NPA ของ ธอส. เพื่อปลูกสร้าง และซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยพร้อมซื้อบ้านหรือห้องชุด
ทั้งนี้สามารถรับรหัสเข้าร่วมโครงการได้เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GHB ALLและกดลงทะเบียนเพื่อรับรหัสเข้าร่วมโครงการ เมื่อทำตามขั้นตอนครบถ้วนแล้วลูกค้าจะได้รับรหัสตัวเลข 6 ตัวทาง GHB Buddy บน Application Line เพื่อนำมาแสดงในการยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 10 กันยายน 2564 เป็นต้นไป และทำนิติกรรมได้ภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือ ก่อนเต็มกรอบวงเงินของโครงการ
สำหรับประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 สามารถตรวจสอบรายละเอียดเงื่อนไขของโครงการ รวมไปถึงคุณสมบัติ เอกสารที่ต้องใช้ประกอบเพื่อขอกู้ โดยรายละเอียดทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
-ชื่อโครงการ
- โครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2
-กำหนดระยะเวลายื่นคำขอกู้เงิน
- ตั้งแต่วันที่ 10 กันยายน 2564และสิ้นสุดระยะเวลาทำนิติกรรมวันที่ 30 ธันวาคม 2566 หรือเมื่อธนาคารให้สินเชื่อเต็มกรอบวงเงินของโครงการ (ธนาคารสงวนสิทธิ์ในการกําหนดระยะเวลาสิ้นสุดโครงการก่อนกําหนด หากธนาคารให้สินเชื่อเต็มวงเงินของโครงการแล้ว)
-วัตถุประสงค์การยื่นกู้
- เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
- เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร
- เพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์ในการอยู่อาศัย พร้อมกับวัตถุประสงค์ซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด
-วงเงิน / ระยะเวลาผ่อน
วงเงิน
- วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อราย/ต่อหลักประกัน
ระยะเวลาผ่อน
- ไม่น้อยกว่า 7 ปี และไม่เกิน 40 ปี อายุผู้กู้รวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 70 ปี ยกเว้น ข้าราชการ ตุลาการ อัยการ หรืออื่น ๆ ที่มีอายุเกษียณมากกว่า 60 ปี อายุผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาที่ขอกู้ต้องไม่เกิน 75 ปี
อัตราดอกเบี้ย / ค่าธรรมเนียม
- ปีที่ 1 - ปีที่ 4 = 1.99% ต่อปี
- ปีที่ 5 - ปีที่ 7 = MRR-2.00% ต่อปี
- ปีที่ 8 จนถึงตลอดอายุสัญญากู้เงิน
-กรณีรายย่อยทั่วไป = MRR-0.75% ต่อปี
-กรณีสวัสดิการหักเงินเดือน = MRR-1.00% ต่อปี
-กรณีกู้ซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกฯ = MRR
ค่าธรรมเนียม
ได้รับสิทธิฟรีค่าธรรมเนียม จำนวน 4 รายการ ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมการยื่นกู้ (0.1% ของวงเงินกู้)
- ค่าประเมินราคาหลักประกัน (1,900 - 2,300 บาท)
- ค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม (1,000 บาทต่อราย)
- ค่าจดทะเบียนนิติกรรมจำนอง (1% ของวงเงินจำนอง)
-คุณสมบัติมีอะไรบ้าง
- ประชาชนทั่วไปที่มีความต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองในราคาซื้อขายไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อหน่วย โดยมุ่งเน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่ไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ กลุ่มคนวัยทำงานหรือประชาชนที่กำลังเริ่มต้นสร้างครอบครัว รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุ
-เอกสารที่ต้องเตรียม
- เอกสารส่วนบุคคล
- บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ
- ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- สำเนาทะเบียนสมรส / ใบหย่า / ใบมรณะบัตร (ถ้ามี)
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – สกุล (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนคู่สมรส (ถ้ามี)
เอกสารทางการเงิน
พนักงานประจำ
- ใบรับรองเงินเดือน / หนังสือผ่านสิทธิสวัสดิการ
- สลิปเงินเดือนหรือหลักฐานการรับเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 12 เดือน/หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่นๆ (พร้อมเอกสารฉบับจริง)
- สำเนาทะเบียนการค้า/ทะเบียนบริษัท/ห้างหุ้นส่วน
- หลักฐานการเสียภาษีเงินได้
- รูปถ่ายกิจการ
- สำเนาใบประกอบวิชาชีพ
-เอกสารหลักประกันมีอะไรบ้าง
- สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย / สัญญาวางมัดจำ / สัญญาเช่าซื้อการเคหะและหนังสือรับรองยอดคงเหลือ
- หลักฐานการเป็นเจ้าของบ้าน เช่น สำเนาใบคำขอ เลขหมายบ้าน สำเนาสัญญาซื้อขายฉบับ สำนักงานที่ดิน (ทด.13 หรือ อ.ช.23)
- สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดินฉบับกรมที่ดิน
- สำเนาโฉนดที่ดิน/น.ส.3ก./หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อช.2) ทุกหน้า
- ใบอนุญาตปลูกสร้าง / ต่อเติม
- แบบแปลน
- ใบประมาณการปลูกสร้าง / สัญญาว่าจ้างก่อสร้าง
- อื่น ๆ (ถ้ามี)