TQM โชว์กำไร Q1/64 ทุบสถิติ แตะ 202 ล้าน

13 พ.ค. 2564 | 18:51 น.

TQM ปลื้ม อานิสงส์ COVID-19 ดันเบี้ยประกันพุ่ง 200 ล้านบาท ส่งผลกำไรไตรมาส 1/64 พุ่งแตะ 202 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ มั่นใจ Q2/64 โตต่อเนื่อง

ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2564 ว่า บริษัทมีกำไรสุทธิ 201.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.4% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน ทำสถิติสูงสุดตามการเพิ่มขึ้นของรายได้รวมแตะ 845.6 ล้านบาท โดยเฉพาะรายได้ค่าบริการ 828.8 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายประกันภัยเกือบทุกประเภทเติบโตขึ้นในทุกช่องทาง โดยเบี้ยประกัน COVID-19 ทำได้ราว 200 ล้านบาท

 

อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM

 

ส่วนช่องทางออนไลน์เติบโตก้าวกระโดดฐานลูกค้าพุ่งแตะ 1.5 ล้านราย หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 50% ของฐานลูกค้าทั้งหมด หลังการแพร่ระบาดของ COVID-19 เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หันมา Work Form Home และช็อปปิงออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน

 

ขณะเดียวกัน บริษัทยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยต้นทุนและค่าใช้จ่ายการให้บริการปรับลดลงต่อเนื่อง 1.4% เหลือ 401.8 ล้านบาท จากการเดินหน้านำดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพและประสิทธิผลงานด้านบริการ ส่งผลให้สามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ไว้ได้ในระดับสูงที่ 51.5% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารอยู่ที่ 189.6 ล้านบาท ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) อยู่ในระดับ 23.8% 

สำหรับแนวโน้มการเติบโตไตรมาส 2/64 ต่อเนื่องครึ่งหลังของปี 2564 มั่นใจยังเดินหน้าสร้างสถิติใหม่ ผลักดันภาพรวมทั้งปี 2564 ให้ปิดยอดขายทะลุเป้า 25,000 ล้านบาท โดยอานิสงส์เบี้ยประกัน COVID-19 เติบโตโดดเด่นต่อเนื่องจากไตรมาส 1/64 ที่ทำได้ราว 200 ล้านบาท หนุนภาพรวมทั้งปีทะลุ 1,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุด ณ เมษายน 2564 ทำได้แล้วกว่า 700 ล้านบาท สูงกว่าเฉลี่ยทั้งปี 2563 ที่ทำได้ราว 500 ล้านบาท ล่าสุดได้ออกผลิตภัณฑ์ประกัน COVID-19 พร้อมประกันแพ้วัคซีน ซึ่งมีกระแสตอบรับที่ดีเกินคาด 

 

นอกจากนั้น บริษัทยังเดินหน้าพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ประกันผ่านออนไลน์แบบแยก Segment เต็มรูปแบบตอบโจทย์ความต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภคยุคนิวนอร์มอลที่เปลี่ยนจากออฟไลน์สู่ออนไลน์ และหันมาให้ความสำคัญกับการทำประกัน โดยเฉพาะประกันสุขภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการออกแบบและพัฒนาระบบออนไลน์ไว้ได้อย่างแข็งแกร่ง ทำให้บริษัท ฯ สามารถพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อนำเสนอได้ทันกับสถานการณ์ตรงกลุ่มเป้าหมาย และปิดงานได้อย่างรวดเร็ว

 

ส่วนความคืบหน้ากรณีเข้าร่วมลงทุนในบริษัท ทรู ไลฟ์ โบรกเกอร์ จำกัด ผู้นำด้านนายหน้าประกันชีวิตประเภทกลุ่มของประเทศไทยพร้อมฐานลูกค้ากว่า 5 แสนราย และ บริษัท ทรู เอ็กซ์ตร้า โบรกเกอร์ จำกัด ประมาณการปี 2564 ซึ่งมีเบี้ยประกันรวมกว่า 1,000 ล้านบาท รายได้รวมกว่า 200 ล้านบาท กำไรสุทธิมากกว่า 30% ต่อปี เบื้องต้นคาดปิดดีลได้เดือนกรกฎาคมนี้ โดยจะสามารถเริ่มรับรู้รายได้ (Consolidate) ภายในไตรมาส 3/64 เป็นต้นไป                   

 

“ผลงานไตรมาส 1/64 ออกมาเติบโตโดดเด่นต่อเนื่องได้ ท่ามกลางการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนฉับพลัน หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้าน หลายหน่วยงานเน้น Work Form Home ส่วนสำคัญมาจากการเตรียมความพร้อมในเรื่องเทคโนโลยี สามารถรองรับทั้งงานขายและงานบริการได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างเต็มรูปแบบ ขณะที่บุคลากรก็พร้อมขานรับและปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท นำไปสู่การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการทำงานได้อย่างรวดเร็ว”ดร.อัญชลินกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: